ยื่นภาษีบุคคลธรรมดา 2568 คู่มือฉบับสมบูรณ์

ถึงเวลาวางแผนยื่นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาประจำปี 2568 กันแล้ว! สำหรับมนุษย์เงินเดือน ฟรีแลนซ์ หรือเจ้าของกิจการ การเตรียมตัวเรื่องคำนวณภาษี และสิทธิลดหย่อนอย่างครบถ้วนคือเรื่องสำคัญ บทความนี้สรุปทุกอย่างที่ต้องรู้ ตั้งแต่ใครบ้างต้องยื่น อัตราภาษีแบบขั้นบันได ค่าลดหย่อนประเภทต่าง ๆ วิธียื่นภาษีออนไลน์ผ่านระบบของกรมสรรพากร พร้อมอัปเดตประกันลดหย่อนภาษี และแนะนำโปรแกรมคำนวณภาษีฉบับปรับปรุงล่าสุด ที่มีรายละเอียดโครงการเที่ยวดีมีคืน ที่เป็นโครงการลดหย่อนภาษีที่เพิ่งประกาศเมื่อไม่นานมานี้

อ่านจบครบทุกเรื่อง ยื่นภาษีปีนี้ได้อย่างมั่นใจ ไม่พลาดสิทธิ์สำคัญแน่นอน!

หัวข้อสำคัญในบทความนี้

• ใครบ้างที่ต้องยื่นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา
• อัตราภาษีแบบขั้นบันได และหลักคิด “เงินได้สุทธิ”
• รวมค่าลดหย่อน
• วิธี “ยื่นภาษีออนไลน์ e-Filing” และการยื่นแบบออฟไลน์
• ไทม์ไลน์ยื่นภาษีปี 2568 ที่ต้องรู้
• แนะนำประกันลดหย่อนภาษี
   

ใครบ้างต้องยื่นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา

• บุคคลธรรมดา
• ห้างหุ้นส่วนสามัญหรือคณะบุคคลที่มิใช่นิติบุคคล
• ผู้ถึงแก่ความตายระหว่างปีภาษี
• กองมรดกที่ยังไม่ได้แบ่ง
• วิสาหกิจชุมชน ตามกฎหมายว่าด้วยการส่งเสริมวิสาหกิจชุมชน เฉพาะที่เป็นห้างหุ้นส่วนสามัญ หรือคณะบุคคลที่มิใช่นิติบุคคล

สำหรับบทความนี้จะเน้นไปที่ “บุคคลธรรมดา” เท่านั้น โดยเกณฑ์ขั้นต่ำที่ต้องยื่นแบบแสดงรายการภาษี สามารถดูได้ที่ตารางด้านล่างนี้

อัตราภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา

มนุษย์เงินเดือน หรือผู้มีรายได้จากการจ้างงานเป็นหลัก เมื่อยื่นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาจะต้องนำ “เงินได้สุทธิ” (รายได้ทั้งหมด หลังจากหักค่าใช้จ่าย และค่าลดหย่อนต่าง ๆ แล้ว) มาคำนวณภาษีตามอัตราภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาที่กำหนดเป็นขั้นบันได ยิ่งมีเงินได้สุทธิสูงเท่าไร อัตราภาษีที่ต้องเสียก็จะยิ่งสูงขึ้นตามไป ดูอัตราภาษีที่ตารางด้านล่างได้เลย

ดูวิธีคำนวณภาษีได้ที่บทความ เงินเดือนเท่าไร ต้องเสียภาษี ?

ค่าลดหย่อนกลุ่มต่าง ๆ

สำหรับผู้ที่ยื่นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา อ่านบทความฉบับเต็ม ได้ที่นี่

1. ค่าลดหย่อนภาษีส่วนตัวและครอบครัว

• ค่าลดหย่อนส่วนตัว สูงสุด 60,000 บาท
• ค่าลดหย่อนคู่สมรส สูงสุด 60,000 บาท (คู่สมรสต้องไม่มีเงินได้ในปีภาษี หรือยื่นตามหลักเกณฑ์ที่กำหนด)
• ค่าลดหย่อนฝากครรภ์และคลอดบุตร ไม่เกิน 60,000 บาทต่อการตั้งครรภ์แต่ละครั้ง (หักตามที่จ่ายจริง รวมกันต่อครรภ์ไม่เกิน 60,000 บาท)
• ค่าลดหย่อนบุตรชอบด้วยกฎหมาย/บุตรบุญธรรม คนละ 30,000 บาท สำหรับบุตรคนที่ 2 เป็นต้นไป (เกิดตั้งแต่ปี 2561) หักเพิ่มได้อีกคนละ 60,000 บาท
• ค่าลดหย่อนบิดามารดา ทั้งของตนเอง และคู่สมรส จำนวนคนละ 30,000 บาทต่อปี (อายุ ≥ 60 ปี และมีเงินได้พึงประเมินไม่เกิน 30,000 บาท/ปี)
• ค่าลดหย่อนภาษีอุปการะเลี้ยงดูผู้พิการหรือผู้ทุพพลภาพ จำนวน 60,000 บาทต่อคน

2. ค่าลดหย่อนภาษีกลุ่มประกัน เงินออม และการลงทุน

สามารถลดหย่อนได้ตามจริง แต่จะมีการกำหนดจำนวนเงินที่ลดหย่อนได้สูงสุดเอาไว้

• เงินสมทบประกันสังคม ไม่เกิน 9,000 บาท
• เบี้ยประกันชีวิตและประกันแบบสะสมทรัพย์ ไม่เกิน 100,000 บาท (ทำกับบริษัทประกันชีวิตในไทย และอายุกรมธรรม์มีระยะเวลาเอาประกันภัยอย่างน้อย 10 ปี  หากเวนคืนกรมธรรม์ก่อนครบ 10 ปี ไม่ได้สิทธิ)
• เบี้ยประกันชีวิตของคู่สมรส ไม่เกิน 10,000 บาท (เฉพาะคู่สมรสไม่มีเงินได้)
• เบี้ยประกันสุขภาพของผู้เอาประกันภัย ไม่เกิน 25,000 บาท และเมื่อรวมกับเบี้ยประกันชีวิตและประกันแบบสะสมทรัพย์ ต้องไม่เกิน 100,000 บาท
• เบี้ยประกันสุขภาพของบิดามารดา ไม่เกิน 15,000 บาท
• เบี้ยประกันชีวิตแบบบำนาญ ลดหย่อนได้สูงสุดร้อยละ 15 ของเงินได้ที่ต้องเสียภาษี แต่ไม่เกิน 200,000 บาท 
• กองทุน RMF ไม่เกินร้อยละ 30 ของเงินได้ที่ต้องเสียภาษี  แต่ไม่เกิน 500,000 บาท (โดยต้องซื้อต่อเนื่องกันทุกปี หรืออย่างน้อยปีเว้นปี ถือหน่วยลงทุนต่อเนื่อยงอย่างน้อย 5 ปี และถือหน่วยลงทุนต่อไปจนกว่าจะมีอายุ 55 ปี ก่อนขายคืน)
• กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ไม่เกินร้อยละ 15 ของค่าจ้าง และ ต้องไม่เกิน 500,000 บาท (โดย 10,000 บาทแรกหักเป็นรายการลดหย่อน ส่วนที่เกิน 10,000 บาท แต่ไม่เกิน 490,000 บาท หักเป็นรายการยกเว้นเงินได้)
• กองทุนสงเคราะห์ครูโรงเรียนเอกชน ลดหย่อนได้สูงสุดร้อยละ 15 ของเงินได้ แต่ไม่เกิน 500,000 บาท 
• กองทุนบำเหน็จบำนาญราชการ ลดหย่อนได้สูงสุดร้อยละ 30 ของเงินได้ แต่ไม่เกิน 500,000 บาท
• กองทุนการออมแห่งชาติลดหย่อนได้ตามที่จ่ายจริง แต่ไม่เกิน 30,000บาท 

ค่าลดหย่อนเมื่อรวมประกันบำนาญ กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ กองทุนการออมแห่งชาติ กองทุนสงเคราะห์ครูโรงเรียนเอกชน และ RMF แล้ว ต้องไม่เกิน 500,000 บาท

• เงินลงทุนธุรกิจ Social Enterprise (วิสาหกิจเพื่อสังคม) สามารถหักลดหย่อนเงินลงทุนในหุ้นหรือการเป็นหุ้นส่วนเพื่อการจัดตั้งหรือเพื่อการเพิ่มทุนได้ไม่เกิน 100,000 บาท
• กองทุน TESG ไม่เกินร้อยละ 30 ของเงินได้พึงประเมิน และไม่เกิน 300,000 บาท สำหรับปีภาษีที่มีการลงทุน
• กองทุนรวมไทยเพื่อความยั่งยืนแบบพิเศษ (Thai ESGX) ไม่เกินร้อยละ 30 ของเงินได้ที่ต้องเสียภาษี สูงสุดไม่เกิน 300,000 บาท
• มูลค่าสับเปลี่ยนกองทุน LTF ไปที่ Thai ESGX ให้ลดหย่อนตามมูลค่าที่สับเปลี่ยน แต่ไม่เกิน 30% ของเงินได้ สูงสุด 300,000 บาท เฉพาะปีภาษี 2568 เท่านั้น

3. ค่าลดหย่อนกลุ่มเงินบริจาค

• เงินบริจาคทั่วไป ลดหย่อนได้สูงสุดร้อยละ 10 ของเงินได้ 
• เงินบริจาคเพื่อสนับสนุนการศึกษา เงิบริจาคสนับสนุนการกีฬา เงินบริจาคให้แก่สถานพยาบาลของรัฐ ผ่านระบบ e-Donation มีสิทธิลดหย่อนได้ 2 เท่า สูงสุดร้อยละ 10 ของเงินได้
• เงินบริจาคให้กับพรรคการเมือง ลดหย่อนได้ สูงสุดไม่เกิน 10,000 บาท

4. ค่าลดหย่อนกลุ่มอสังหาริมทรัพย์

• ดอกเบี้ยเงินกู้ยืมเพื่อซื้อที่อยู่อาศัย ลดหย่อนได้สูงสุด 100,000 บาท
• ค่าสร้างบ้านใหม่ไม่เกิน 1 หลัง สามารถลดหย่อนได้ 10,000 บาท ต่อจำนวนค่าก่อสร้างที่จ่ายจริงทุก 1 ล้านบาท (รวม VAT แล้ว) รวมแล้วไม่เกิน 100,000 บาท โดยจำกัดค่าก่อสร้างบ้านใหม่ สูงสุดไม่เกิน 10,000,000 บาท โดยต้องทำสัญญาจ้างตั้งแต่วันที่ 9 เมษายน 2567 - 31 ธันวาคม 2568

5. ค่าลดหย่อนกลุ่มกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐ

• โครงการ Easy e-Receipt โดยต้องซื้อสินค้าหรือบริการตั้งแต่วันที่ 16 มกราคม 2568 - 28 กุมภาพันธ์ 2568 สามารถหักลดหย่อนได้จากค่าสินค้า/บริการตามที่จ่ายจริง แต่ไม่เกิน 50,000 บาท
• โครงการเที่ยวดีมีคืน ระยะเวลาโครงการตั้งแต่วันที่ 29 ตุลาคม ถึงวันที่ 15 ธันวาคม 2568 สามารถนำมาหักลดหย่อนค่าใช้จ่ายจำนวนไม่เกิน 20,000 บาท ตามจำนวนที่จ่ายจริง

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่

วิธีการยื่นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา (ออนไลน์ vs ออฟไลน์)

การยื่นภาษีแบบออนไลน์

ขั้นตอนที่ 1: เข้าสู่เว็บไซต์ของกรมสรรพากร (www.rd.go.th) จากนั้นเลือก “ยื่นแบบทุกประเภท” และ “ยื่นแบบออนไลน์” 
ขั้นตอนที่ 2 : เข้าสู่ระบบ E-filing ของกรมสรรพากร 
ขั้นตอนที่ 3: เลือกยื่นแบบภาษีเงินได้ ภ.ง.ด. 90/91 
ขั้นตอนที่ 4: กรอกข้อมูลผู้มีเงินได้ 
ขั้นตอนที่ 5: กรอกเงินได้และภาษีหัก ณ ที่จ่าย
ขั้นตอนที่ 6: กรอกค่าลดหย่อน 
ขั้นตอนที่ 7: ตรวจสอบข้อมูล 
ขั้นตอนที่ 8: ยืนยันการยื่นแบบ

การยื่นภาษีแบบออฟไลน์

• ในเขตกรุงเทพมหานคร ให้ยื่น ณ สำนักงานสรรพากรพื้นที่สาขา (สรรพากรเขต/อำเภอ เดิม) ในท้องที่ที่สำนักงานใหญ่ตั้งอยู่
• ในเขตจังหวัดอื่น ให้ยื่น ณ ที่ว่าการอำเภอหรือกิ่งอำเภอท้องที่ที่สำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ ในกรณีสำนักงานสรรพากรอำเภอมิได้ตั้งอยู่ ณ ที่ว่าการอำเภอให้ยื่น ณ สำนักงานสรรพากรอำเภอ 

โดยควรเตรียมเอกสารไปให้พร้อม ดูรายชื่อเอกสารได้ที่นี่
 

ไทม์ไลน์การยื่นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา

ระยะเวลายื่นภาษีออนไลน์ประจำปี 2568 เริ่มตั้งแต่ 1 มกราคม - 31 มีนาคม 2569 และการยื่นออนไลน์อาจมีการขยายเวลา (ถ้ามี) ตามประกาศของกรมสรรพากรในปีนั้น ๆ
 

แนะนำประกันลดหย่อนภาษี

ในรายการค่าลดหย่อนภาษีด้านบน จะเห็นว่ามีค่าลดหย่อนประเภทเบี้ยประกันชีวิตอยู่หลายประเภท ดังนั้น บทความนี้จะแนะนำประกันชีวิตทุกแบบที่ใช้ลดหย่อนภาษีได้

ประกันสะสมทรัพย์ โอเชี่ยนไลฟ์ ออมสบาย 10/4

• รับเงินคืนสูงทุกปี 20% ตั้งแต่ปีที่ 1-9
• รับเงินก้อนครบกำหนดสัญญา 269% ในปีที่ 10
• รวมผลประโยชน์ตลอดสัญญา 449%

ประกันสะสมทรัพย์ โอเชี่ยนไลฟ์ ซูเปอร์ รีเทิร์น 10/5

• รับเงินคืนสูงทุกปี โดยปีที่ 1-6 รับเงินคืน 20% และปีที่ 7-9 รับเงินคืน 100%
• รับเงินก้อนครบกำหนดสัญญา 110% ในปีที่ 10
• รวมผลประโยชน์ตลอดสัญญา 530%

ประกันบำนาญ รีไทร์ เรดดี้ 85/5

• รับเงินบำนาญ 15% ต่อปี ตั้งแต่อายุ  60-85 ปี
• รับเงินบำนาญตลอดสัญญาสูงสุดรวม 390%

ประกันสุขภาพเอ็นจอย เฮลท์ เอ็กซ์ตร้า

• คุ้มครองค่ารักษาพยาบาลผู้ป่วยในแบบเหมาจ่าย สูงสุด 5 ล้านบาทต่อครั้ง*
• ครอบคลุมค่าห้องพักเดี่ยวมาตรฐานในโรงพยาบาลชั้นนำ

แนะนำโปรแกรมคำนวณภาษี

โปรแกรมคำนวณภาษีจาก OCEAN LIFE ไทยสมุทรประกันชีวิต ช่วยให้คุณวางแผนภาษีได้ง่ายขึ้นในไม่กี่นาที เพียงกรอกข้อมูลรายได้ และค่าลดหย่อนต่าง ๆ ระบบจะคำนวณภาษีที่ต้องจ่ายให้ภายในไม่กี่นาที

เริ่มคำนวณภาษีของคุณได้เลยวันนี้กับ OCEAN LIFE ไทยสมุทร คลิก

ข้อควรทราบ :

*เมื่อทำประกันสัญญาเพิ่มเติมคุ้มครองสุขภาพเอ็นจอย เฮลท์ เอ็กซ์ตร้า (Enjoy Health Extra) แผน 3 (D0/D20,000/D50,000/D100,000)

• % หมายถึง เปอร์เซ็นต์ของจำนวนเงินเอาประกันภัย
• การรับประกันภัยเป็นไปตามเงื่อนไขและหลักเกณฑ์ที่บริษัทฯ กำหนด
• ความคุ้มครองและการจ่ายผลประโยชน์ต่าง ๆ เป็นไปตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้ในกรมธรรม์
• เบี้ยประกันชีวิต สามารถนำไปอ้างอิงลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาตามหลักเกณฑ์ที่กรมสรรพากรกำหนด 
• ผู้เอาประกันภัยที่ประสงค์จะนำเบี้ยประกันชีวิต ไปอ้างอิงลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ต้องแจ้งความประสงค์และยินยอมให้บริษัทฯ นำส่งข้อมูลเบี้ยประกันชีวิต ให้กรมสรรพากร
• การนำส่งเบี้ยประกันภัยเป็นหน้าที่ของผู้เอาประกันภัย การที่ที่ปรึกษาประกันชีวิต (ตัวแทนประกันชีวิต) มาเก็บเบี้ยประกันภัยเป็นการให้บริการเท่านั้น
• ข้อมูลในเอกสารนี้เป็นเพียงข้อมูลเบื้องต้นของผลิตภัณฑ์ประกันภัย ผู้ขอเอาประกันภัย/ผู้เอาประกันภัยควรศึกษาข้อมูลเพิ่มเติม และทำความเข้าใจในรายละเอียดเงื่อนไขความคุ้มครอง ผลประโยชน์ และข้อยกเว้น ก่อนตัดสินใจทำประกันภัยทุกครั้ง เมื่อได้รับกรมธรรม์แล้วโปรดศึกษาเพิ่มเติม