ก่อนถึงวันยื่นภาษี มาอัปเดตหลักเกณฑ์การลดหย่อนสำหรับปีภาษี 2566 กันดีกว่า ปีนี้มีรายละเอียดที่เปลี่ยนแปลงจากปี 2565 เล็กน้อย เนื่องจากมีโครงการช้อปดีมีคืนเพิ่มเติมเข้ามา ซึ่งรายละเอียดต่างจากโครงการช้อปดีมีคืนในปีก่อนหน้าอยู่พอสมควร
สำหรับใครที่ยังไม่มีตัวช่วยในการลดหย่อนภาษี ประกันสะสมทรัพย์ โอเชี่ยนไลฟ์ ออมสบาย 10/5 มีเงินคืนสูง เพื่อให้คุณไปลงทุนต่อ โดยปีที่ 1 - 6 มีเงินคืนปีละ 20% ณ สิ้นปีกรมธรรม์ และรับเต็ม ๆ ปีที่ 7 – 9 ปีละ 100% ณ สิ้นปีกรมธรรม์
ลดหย่อนได้ 1 แสน ไม่ต้องรอนาน 8 ปี ไม่ต้องเสี่ยงกับความผันผวนของตลาด
ทำประกันลดหย่อนภาษี โอเชี่ยนไลฟ์ ออมสบาย 10/5
ยื่นภาษี 2566 ได้ถึงเมื่อไร
ระยะเวลายื่นภาษีออนไลน์ประจำปี 2566 เริ่มตั้งแต่ 1 มกราคม - 9 เมษายน 2567
หลักเกณฑ์ลดหย่อนภาษี 2566
1. ค่าลดหย่อนภาษีส่วนตัวและครอบครัว
- ค่าลดหย่อนส่วนตัว ลดหย่อนสูงสุด 60,000 บาท สามารถลดหย่อนภาษีได้โดยไม่มีเงื่อนไขใด ๆ
- ค่าลดหย่อนคู่สมรส ลดหย่อนสูงสุด 60,000 บาท สำหรับคู่สมรสที่จดทะเบียนสมรสถูกต้องถามกฎหมาย และคู่สมรสจะต้องไม่มีเงินได้
- ค่าลดหย่อนฝากครรภ์และคลอดบุตร ที่จ่ายให้กับสถานพยาบาลของรัฐหรือเอกชน สามารถลดหย่อนได้ไม่เกิน 60,000 บาทต่อการตั้งครรภ์แต่ละครั้ง
- ค่าลดหย่อนบุตรชอบด้วยกฎหมาย/บุตรบุญธรรม ลดหย่อนได้ คนละ 30,000 บาท โดยบุตรต้อง (1) เป็นผู้เยาว์ที่มีอายุไม่เกิน 20 ปี หรือ (2) ยังศึกษาในมหาวิทยาลัย/อุดมศึกษา (3) เป็นบุคคลไร้ความสามารถ/ เสมือนไร้ความสามารถ ที่มีอายุไม่เกิน 25 ปี
การลดหย่อนบุตรบุญธรรม ต้องใช้สิทธิลดหย่อนบุตรชอบด้วยกฎหมายก่อน โดยบุตรบุญธรรมเมื่อรวมกับบุตรชอบด้วยกฎหมาย ต้องไม่เกิน 3 คน (หากใช้สิทธิลดหย่อนบุตรชอบด้วยกฎหมาย 3 คนแล้ว จะใช้สิทธิลดหย่อนบุตรบุญธรรมไม่ได้)
สำหรับบุตรชอบด้วยกฎหมายคนที่ 2 เป็นต้นไป ที่เกิดตั้งแต่ปี 2561 สามารถลดหย่อนเพิ่มอีก คนละ 30,000 บาท รวมเป็นคนละ 60,000 บาท -
ค่าลดหย่อนบิดามารดา สำหรับเลี้ยงดูบิดามารดาของตนเอง และบิดามารดาของคู่สมรส จำนวนคนละ 30,000 บาทต่อปี สูงสุดไม่เกิน 4 คน และไม่เกิน 120,000 บาท โดยบิดามารดาต้องมีอายุ 60 ปีขึ้นไป โดยหากมีบุตรหลายคน บุตรจะไม่สามารถใช้สิทธิลดหย่อนซ้ำซ้อนกันได้ เช่น นาย A และ นาย B เป็นพี่น้องกัน ไม่สามารถใช้สิทธิลดหย่อนสำหรับบิดาพร้อมกันทั้งคู่ ดังนั้น นาย A และนาย B ต้องตกลงกันว่าในปี 2567 นี้ ใครจะเป็นผู้ใช้สิทธิดังกล่าว สมมติว่านาย A จะเป็นผู้ใช้สิทธิในปี 2567 ต่อมาในปี 2568 สามารถสลับให้นาย B เป็นผู้ใช้สิทธิได้ เป็นต้น อ่านรายละเอียดเกี่ยวกับสิทธิลดหย่อนพ่อแม่โดยเฉพาะ ได้ที่นี่
-
ค่าลดหย่อนภาษีอุปการะเลี้ยงดูผู้พิการหรือผู้ทุพพลภาพ จำนวน 60,000 บาทต่อคน และผู้พิการจะต้องมีรายได้ไม่เกิน 30,000 บาทต่อปี และต้องเป็นผู้ที่ดูแลคนพิการตามกฎหมายว่าด้วยการส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ
2. ค่าลดหย่อนภาษีกลุ่มประกัน เงินออม และการลงทุน
- เงินประกันสังคม ลดหย่อนได้ตามที่จ่ายจริงสูงสุดไม่เกิน 9,000 บาท
- เบี้ยประกันชีวิตและประกันแบบสะสมทรัพย์ ลดหย่อนได้ตามที่จ่ายจริงสูงสุดไม่เกิน 100,000 บาท โดยเงื่อนไขของค่าลดหย่อนประกันชีวิตคือ ต้องมีระยะเวลาคุ้มครอง 10 ปีขึ้นไป (อ่านเงื่อนไขการลดหย่อนภาษีของประกันสะสมทรัพย์ได้ที่นี่)
- ค่าเบี้ยประกันชีวิตของคู่สมรส ลดหย่อนได้ตามที่จ่ายจริงสูงสุดไม่เกิน 10,000 บาท เฉพาะกรณีที่คู่สมรสไม่มีรายได้
- เบี้ยประกันสุขภาพ และเบี้ยประกันอุบัติเหตุที่คุ้มครองสุขภาพ ลดหย่อนได้ตามที่จ่ายจริงสูงสุดไม่เกิน 25,000 บาท โดยเมื่อรวมกับเบี้ยประกันชีวิตและประกันแบบสะสมทรัพย์ ต้องไม่เกิน 100,000 บาท
- เบี้ยประกันสุขภาพของบิดามารดา ลดหย่อนได้ตามที่จ่ายจริงสูงสุดไม่เกิน 15,000 บาท โดยบิดามารดาไม่จำเป็นต้องมีอายุ 60 ปีขึ้นไป แต่ต้องมีรายได้ไม่เกิน 30,000 บาท เฉพาะบุตรโดยชอบด้วยกฎหมายเท่านั้นที่มีสิทธิลดหย่อน (ไม่รวมถึงบุตรบุญธรรม)
- เบี้ยประกันชีวิตแบบบำนาญ ลดหย่อนได้สูงสุด 15% ของเงินได้ที่ต้องเสียภาษี แต่ไม่เกิน 200,000 บาท และค่าลดหย่อนเมื่อรวมกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ กองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) กองทุนสงเคราะห์ครูโรงเรียนเอกชน และ RMF แล้ว ต้องไม่เกิน 500,000 บาท
- กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ หรือ RMF ให้ลดหย่อนภาษีได้เท่าที่ได้จ่ายเป็นค่าซื้อหน่วยลงทุนในอัตราไม่เกินร้อยละ 30 ของเงินได้ที่ต้องเสียภาษี แต่ไม่เกิน 500,000 บาท โดยต้องซื้อต่อเนื่องกันทุกปี
- กองทุนรวมเพื่อการออม หรือ SSF ให้ลดหย่อนภาษีได้เท่าที่ได้จ่ายเป็นค่าซื้อหน่วยลงทุนในอัตราไม่เกินร้อยละ 30 ของเงินได้ที่ต้องเสียภาษี และไม่เกิน 200,000 บาท
- กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ให้ลดหย่อนภาษีได้ตามที่จ่ายจริงแต่ไม่เกิน ร้อยละ 15 ของค่าจ้าง และ ต้องไม่เกิน 500,000 บาท (โดย 10,000 บาทแรกหักเป็นรายการลดหย่อน ส่วนที่เกิน 10,000 บาท แต่ไม่เกิน 490,000 บาท หักเป็นรายการยกเว้นเงินได้)
- กองทุน TESG ให้ลดหย่อนภาษีได้สูงสุดไม่เกินร้อยละ 30 ของเงินได้พึงประเมิน และไม่เกิน 100,000 บาท สำหรับปีภาษีที่มีการลงทุน
- กองทุนสงเคราะห์ครูโรงเรียนเอกชน ลดหย่อนภาษีได้ตามที่จ่ายจริง แต่ไม่เกิน 500,000 บาท
- กองทุนบำเหน็จบำนาญราชการ (กบข.) สามาถนำมาหักลดหย่อนภาษีได้ตามที่จ่ายจริง แต่ไม่เกิน 500,000 บาท
- กองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) ให้ลดหย่อนตามจำนวนที่จ่ายจริง แต่ไม่เกิน 30,000บาท
- เงินลงทุนธุรกิจ Social Enterprise (วิสาหกิจเพื่อสังคม) สามารถหักลดหย่อนเงินลงทุนในหุ้นหรือการเป็นหุ้นส่วนเพื่อการจัดตั้งหรือเพื่อการเพิ่มทุนได้ไม่เกิน 100,000 บาท
3. ค่าลดหย่อนภาษีกลุ่มเงินบริจาค
- เงินบริจาคทั่วไป ลดหย่อนได้สูงสุด 10% ของเงินได้ หลังจากหักค่าใช้จ่ายและค่าลดหย่อนอื่น
- เงินบริจาคเพื่อสนับสนุนการศึกษา เงินบริจาคสนับสนุนการกีฬา เงินบริจาคให้แก่สถานพยาบาลของรัฐ ผ่านระบบ e-Donation มีสิทธิลดหย่อนได้ 2 เท่า สูงสุด 10% ของเงินได้หลังจากหักค่าใช้จ่ายและค่าลดหย่อนอื่น
- เงินบริจาคให้กับพรรคการเมือง ลดหย่อนได้ สูงสุดไม่เกิน 10,000 บาท
4. ค่าลดหย่อนกลุ่มอสังหาริมทรัพย์
ดอกเบี้ยเงินกู้ยืมเพื่อซื้อที่อยู่อาศัย ลดหย่อนได้สูงสุด 100,000 บาท
5. ค่าลดหย่อนกลุ่มกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐ
โครงการช้อปดีมีคืน สามารถลดหย่อนภาษี จากค่าสินค้า/บริการตามที่จ่ายจริง แต่ไม่เกิน 40,000 บาท แบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ ส่วนแรก ค่าสินค้า/บริการจำนวนไม่เกิน 30,000 บาทแรก ที่มีใบกำกับภาษีแบบเต็มรูป หรือใบรับ โดยใช้ได้ทั้งแบบกระดาษ หรือ e-Tax Invoice หรือ e-Receipt และส่วนที่เหลืออีก 10,000 บาท ใช้ได้เฉพาะ e-Tax Invoice หรือ e-Receipt เท่านั้น อ่านรายละเอียดเกี่ยวกับสินค้าที่เข้าร่วมโครงการได้ที่นี่
ทราบหลักเกณฑ์การลดหย่อนภาษีกันไปแล้ว ขั้นตอนต่อไปในการเตรียมตัวก่อนยื่นภาษี คือการลองคำนวณภาษีออนไลน์ เพื่อตรวจสอบจำนวนเงินที่ต้องเสียภาษี (หรือจำนวนเงินที่ได้คืน) โดย OCEAN LIFE ไทยสมุทร มีโปรแกรมคำนวณภาษีอัปเดตใหม่ล่าสุด ใช้งานง่ายมาก ๆ
“OCEAN LIFE ไทยสมุทรขอแนะนำ โปรแกรมคำนวณภาษี แค่แชทกับโอชิก็คำนวณภาษีได้”
ข้อควรทราบ :
- % หมายถึง เปอร์เซ็นต์ของจำนวนเงินเอาประกันภัย
- การรับประกันภัยเป็นไปตามเงื่อนไขและหลักเกณฑ์ที่บริษัทฯ กำหนด
- เบี้ยประกันชีวิต สามารถนำไปอ้างอิงลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาตามหลักเกณฑ์ที่กรมสรรพากรกำหนด
- ผู้เอาประกันภัยที่ประสงค์จะนำเบี้ยประกันชีวิตไปอ้างอิงลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาต้องแจ้งความประสงค์และยินยอมให้บริษัทฯนำส่งข้อมูลเบี้ยประกันชีวิตให้กรมสรรพากร
- การนำส่งเบี้ยประกันภัยเป็นหน้าที่ของผู้เอาประกันภัยการที่ตัวแทนประกันชีวิตมาเก็บเบี้ยประกันภัยเป็นการให้บริการเท่านั้น
- ความคุ้มครอง และการจ่ายผลประโยชน์ต่างๆ เป็นไปตามเงื่อนไข ที่กำหนดไว้ในกรมธรรม์
- ข้อมูลในเอกสารนี้เป็นเพียงข้อมูลเบื้องต้นของผลิตภัณฑ์ประกันภัย ผู้ขอเอาประกันภัย/ผู้เอาประกันภัยควรศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมและทำความเข้าใจในรายละเอียดเงื่อนไขความคุ้มครอง ผลประโยชน์ และข้อยกเว้น ก่อนตัดสินใจทำประกันภัยทุกครั้งเมื่อได้รับกรมธรรม์แล้วโปรดศึกษาเพิ่มเติม
อ้างอิง :
https://www.rd.go.th/60059.html
https://www.rd.go.th/62777.html
กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.)
กองวิชาการแผนภาษี กรมสรรพากร