ในยุคที่ผู้คนให้ความสำคัญกับการวางแผนการเงินระยะยาว "ประกันสะสมทรัพย์แบบมีเงินคืน" เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจ เพราะนอกจากจะให้ความคุ้มครองชีวิตแล้ว ยังมีเงินคืนระหว่างสัญญา ช่วยเสริมสภาพคล่องทางการเงินอีกด้วย อย่างไรก็ตาม ประกันแบบนี้ก็มีหลายรูปแบบที่เหมาะกับความต้องการที่แตกต่างกัน บทความนี้จะพาไปทำความเข้าใจ และเปรียบเทียบให้เห็นชัด ๆ ว่าแต่ละแบบเหมาะกับใครบ้าง
เงินคืนประกันชีวิต คืออะไร แตกต่างจากเงินปันผลอย่างไร
"เงินคืนประกันชีวิต" คือผลประโยชน์ตามกรมธรรม์ที่บริษัทประกันชีวิตจะจ่ายให้กับผู้เอาประกันภัย ตามระยะเวลาที่กำหนดไว้ในกรมธรรม์ เช่น ทุกปี หรือทุก 3 ปี ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับแต่ละแบบประกันของแต่ละกรมธรรม์ โดยเป็นจำนวนเงินที่ระบุแน่นอนตั้งแต่เริ่มทำสัญญา ส่วนมากจะระบุเป็นเปอร์เซ็นต์ของจำนวนเงินเอาประกันภัย ช่วยให้ผู้เอาประกันภัยสามารถวางแผนนำเงินส่วนนี้ไปใช้ระหว่างสัญญาได้ตามต้องการ
ในขณะที่ "เงินปันผล" คือ เงินที่ผู้เอาประกันภัยจะได้รับจากผลประกอบการที่บริษัทประกันชีวิตได้นำเงินไปลงทุน โดยบริษัทจะแบ่งผลประกอบการจากการลงทุนของบริษัท ให้กับผู้เอาประกันภัย ทั้งนี้ จะไม่ได้มีการกำหนดจำนวนเงินที่แน่นอนของเงินปันผลที่จะได้รับ เนื่องจากมีหลายปัจจัยที่อาจจะทำให้ได้มาก น้อย หรือไม่ได้ ขึ้นอยู่กับผลประกอบการของบริษัทประกันชีวิต ผลกำไรจากการลงทุน รวมถึงสภาพเศรษฐกิจ ซึ่งเงินจำนวนนี้จะไม่รับรองการจ่ายจากบริษัทให้ผู้เอาประกันภัย โดยระยะเวลาการจ่ายเงินปันผลขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของแต่ละแบบประกัน เช่น มีโอกาสรับเงินปันผลเมื่อผู้เอาประกันภัยมีชีวิตอยู่จนครบกำหนดสัญญา เป็นต้น
อ่านบทความเกี่ยวกับประกันสะสมทรัพย์แบบมีเงินปันผลได้ ที่นี่
เปรียบเทียบประกันสะสมทรัพย์แบบมีเงินคืน
ในบรรดาประกันสะสมทรัพย์ที่มีเงินคืนจาก OCEAN LIFE ไทยสมุทร โอเชี่ยนไลฟ์ ซูเปอร์ รีเทิร์น 10/5 และ โอเชี่ยนไลฟ์ สมาร์ท โกล 10/8 เป็น 2 ตัวเลือกที่น่าสนใจ และเราอยากแนะนำให้คุณลองเปรียบเทียบ เพื่อเลือกให้ตอบโจทย์กับความต้องการ เพราะระยะเวลาคุ้มครองใกล้เคียงกัน แต่ว่าแต่ละแบบมีลักษณะเด่นและเหมาะกับไลฟ์สไตล์ทางการเงินที่แตกต่างกัน ดังนี้
ทีม “รับเงินคืนสูงทุกปี ยิ่งมียิ่งต่อยอด”
โอเชี่ยนไลฟ์ ซูเปอร์ รีเทิร์น 10/5
(ดูรายละเอียดเพิ่มเติม คลิกที่นี่)
จุดเด่น:
- ชำระเบี้ยประกันภัยเพียง 5 ปี แต่คุ้มครองยาวถึง 10 ปี
- ได้รับเงินคืน 20% ของจำนวนเงินเอาประกันภัย ตั้งแต่สิ้นปีกรมธรรม์ที่ 1-6
- ได้รับเงินคืน 100% ของจำนวนเงินเอาประกันภัย ตั้งแต่สิ้นปีกรมธรรม์ที่ 7-9
- เมื่อครบกำหนดสัญญา (ปีที่ 10) รับเงินก้อน 110% ของจำนวนเงินเอาประกันภัย
- รวมผลตอบแทนตลอดสัญญาสูงถึง 530% ของจำนวนเงินเอาประกันภัย
เหมาะกับใคร:
- ผู้ที่ต้องการวางแผนการออมเงินในรูปแบบประกันชีวิต เพื่อมีเงินเก็บไว้ใช้ในอนาคต ทั้งยังสามารถนำเบี้ยประกันชีวิตไปลดหย่อนภาษีได้ตามระยะเวลาที่จ่ายเบี้ยประกันภัย 5 ปี
- ผู้ที่ต้องการ "ได้รับเงินคืนสูง" ตั้งแต่ปีแรกและได้ทุกปี นำไปลงทุนต่อยอดได้ เช่น นำเงินคืนไปซื้อกองทุน สลากออมทรัพย์ หุ้น หรือการลงทุนอื่น ๆ
- ผู้ที่ต้องการวางแผนการจ่ายเบี้ยประกันภัยแบบไม่ต้องรอรายได้ในอนาคต โดยนำเงินคืนแต่ละปีไปจ่ายเบี้ยปีถัด ๆ ไป
ทีม “รับเงินคืนทุกปี มีก้อนใหญ่ปลายทาง”
โอเชี่ยนไลฟ์ สมาร์ท โกล 10/8
(ดูรายละเอียดเพิ่มเติม คลิกที่นี่)
จุดเด่น:
- ชำระเบี้ยประกันภัย 8 ปี คุ้มครองชีวิต 10 ปี
- ได้รับเงินคืน 8% ของจำนวนเงินเอาประกันภัย ตั้งแต่สิ้นปีกรมธรรม์ที่ 1-9
- เมื่อครบสัญญา (ปีที่ 10) รับเงินก้อน 800% ของจำนวนเงินเอาประกันภัย
- รวมผลตอบแทนตลอดสัญญาสูงถึง 872% ของจำนวนเงินเอาประกันภัย
เหมาะกับใคร:
- ผู้ที่เน้น "เก็บเงินเพื่ออนาคต" ต้องการเงินก้อนใหญ่ในระยะกลาง (10 ปี)
- ผู้ที่ "ไม่อยากเสี่ยง" หรือต้องการวางแผนการเงินแบบมีความเสี่ยงต่ำ มั่นคง และปลอดภัย
- ผู้ที่ "ไม่มีแผนใช้งานเงินคืนก้อนใหญ่ระหว่างทาง" แต่รู้สึกอุ่นใจที่มีเงินคืนเข้าบัญชีทุกปีเล็กน้อย
- เหมาะกับการเก็บเงินก้อนเพื่อเป้าหมายในอนาคต เช่น เตรียมเงินเพื่อการศึกษาลูก ซื้อบ้านหลังเล็ก ๆ หรือเตรียมเงินก้อนสำหรับการเกษียณ
การเลือกประกันสะสมทรัพย์แบบมีเงินคืน ควรดูที่ "เป้าหมายการเงิน" ของตัวเองเป็นหลัก ถ้าต้องการเงินคืนไปต่อยอด หรือไม่อยากต้องหาเงินจำนวนมาก ๆ มาจ่ายเบี้ยปีต่อ ๆ ไป "โอเชี่ยนไลฟ์ ซูเปอร์ รีเทิร์น 10/5" อาจเป็นตัวเลือกที่ใช่ แต่ถ้าเน้นมีเงินคืนเพื่อเป็นแรงใจในการรอรับเงินก้อนโตในอนาคต "โอเชี่ยนไลฟ์ สมาร์ท โกล 10/8" อาจตอบโจทย์มากกว่า หากไม่รู้จะตัดสินใจเลือกแบบประกันไหนดี สามารถอ่านข้อมูลเพิ่มเติมของแต่ละแบบประกันได้ตามลิงก์ด้านล่างนี้เลย
โอเชี่ยนไลฟ์ ซูเปอร์ รีเทิร์น 10/5 คลิกที่นี่
โอเชี่ยนไลฟ์ สมาร์ท โกล 10/8 คลิกที่นี่
ข้อควรทราบ :
- การรับประกันภัยเป็นไปตามเงื่อนไขและหลักเกณฑ์ที่บริษัทฯกำหนด
- ความคุ้มครองและการจ่ายผลประโยชน์ต่างๆ เป็นไปตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้ในกรมธรรม์
- เบี้ยประกันชีวิต สามารถนำไปอ้างอิงลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาตามหลักเกณฑ์ที่กรมสรรพากรกำหนด
- ผู้เอาประกันภัยที่ประสงค์จะนำเบี้ยประกันชีวิต ไปอ้างอิงลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ต้องแจ้งความประสงค์และยินยอมให้บริษัทฯ นำส่งข้อมูลเบี้ยประกันชีวิตให้กรมสรรพากร
- การนำส่งเบี้ยประกันภัยเป็นหน้าที่ของผู้เอาประกันภัย การที่ที่ปรึกษาประกันชีวิต (ตัวแทนประกันชีวิต) มาเก็บเบี้ยประกันภัยเป็นการให้บริการเท่านั้น
- ข้อมูลในเอกสารนี้เป็นเพียงข้อมูลเบื้องต้นของผลิตภัณฑ์ประกันภัย ผู้ขอเอาประกันภัย/ผู้เอาประกันภัยควรศึกษาข้อมูลเพิ่มเติม และทำความเข้าใจในรายละเอียดเงื่อนไขความคุ้มครอง ผลประโยชน์ และข้อยกเว้น ก่อนตัดสินใจทำประกันภัยทุกครั้ง เมื่อได้รับกรมธรรม์แล้วโปรดศึกษาเพิ่มเติม