เมื่อฤดูร้อนมาถึง การระวังโรคที่เกิดขึ้นในช่วงนี้เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง เนื่องจากอากาศร้อนและชื้นอาจก่อให้เกิดเชื้อโรคต่างๆ และยังมีผลต่อร่างกายและจิตใจมากกว่าที่หลาย ๆ คนคิด ดังนั้นจึงควรรู้จักและป้องกันโรคฤดูร้อนเอาไว้ โดยในบทความนี้จะแนะนำเกี่ยวกับ 5 โรคที่ควรระวังในช่วงฤดูร้อนนี้
เจ็บป่วยเพราะโรคฤดูร้อน ให้ประกันสุขภาพโอชิ สมอล เฮลท์ ช่วยดูแล คลิกเลย
- คุ้มครองค่ารักษาพยาบาลผู้ป่วยใน (IPD) เหมาจ่ายตามจริง สูงสุด 50,000 บาทต่อครั้ง(1) ไม่จำกัดจำนวนครั้งต่อปี
- คุ้มครองค่ารักษาพยาบาลผู้ป่วยนอก (OPD) สูงสุดครั้งละ 1,000 บาท(1) ไม่ต้องสำรองจ่าย เมื่อเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาล คลินิกเครือข่าย และรวมถึงการใช้บริการ Telemedicine หรือบริการ Telepharmacy(2)
- คุ้มครองชีวิต ผลประโยชน์กรณีเสียชีวิต 50,000 บาท
1. โรคลมแดด หรือฮีทสโตรก (Heat Stroke)
ฤดูร้อนของประเทศไทย ที่มักมีสภาพอากาศที่ร้อนจัด จะทำให้อุณหภูมิในร่างกายสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว จึงไม่สามารถระบายความร้อนออกได้ทัน โดยโรคลมแดดนั้น ไม่ได้เกิดขึ้นได้เฉพาะกับมนุษย์ แต่ยังสามารถเกิดขึ้นกับสัตว์เลี้ยงอย่างสุนัขและแมวได้อีกด้วย
อาการ
- มีไข้สูงเกิน 40.5 องศาเซลเซียส
- กลไกการขับความร้อนออกจากร่างกายไม่เป็นปกติ ดังนั้น ผู้ป่วยอาจไม่มีเหงื่อออก จึงเกิดภาวะบวมจากความร้อน และผิวหนังแดงเพราะความร้อน
- อาเจียน ปวดหัว เวียนหัว ท้องเสีย และมีอาการอ่อนเพลีย
- มีอาการทางระบบประสาท โดยเฉพาะการเปลี่ยนแปลงของความรู้สึก เช่น ซึม สับสน หรือบางทีอาจจะถึงขั้นชักและหมดสติได้
การป้องกัน
- เลือกสวมเสื้อผ้าที่โปร่งสบาย และระบายความร้อนได้ดี
- ดื่มน้ำอย่างสม่ำเสมอ และควรดื่มอย่างน้อย 8 แก้วต่อวัน
- หลีกเลี่ยงการทำกิจกรรมกลางแจ้งหรือในที่อากาศร้อนจัด หากจำเป็นต้องทำ ควรหยุดพักเป็นระยะ และไม่ฝืนทำกิจกรรมต่อ หากรู้สึกว่าเริ่มมีอาการเริ่มต้นของโรคลมแดด
การรักษาพยาบาลตนเองเบื้องต้น เมื่อเริ่มมีอาการ
- ออกมาจากบริเวณที่มีอากาศร้อน
- ถอดเสื้อผ้าออกบ้าง เพื่อระบายความร้อน
- พัดหรือเป่าลมระบายความร้อน
- นำผ้าชุบน้ำเย็นมาเช็ดตัว สามารถวางตามข้อพับ คอ และหน้าผากได้
- ดื่มน้ำเกลือแร่ เพื่อชดเชยเกลือแร่ที่ร่างกายสูญเสียไป
2. อาหารเป็นพิษ
อากาศร้อนเป็นตัวการสำคัญของโรคอาหารเป็นพิษ เพราะทำให้อาหารบูดเสียได้ง่าย โดยเฉพาะอาหารที่ไม่ได้อุ่นจนร้อน อาจมีเชื้อโรคปะปนมา โดยนอกจากจะทำให้อาหารเป็นพิษด้วยแล้ว เชื้อโรคต่าง ๆ อาจทำให้เกิดโรคที่ติดต่อผ่านระบบทางเดินอาหารต่าง ๆ เช่น อหิวาตกโรค, โรคบิด, ไวรัตับอักเสบ A เป็นต้น
อาการ
- คลื่นไส้อาเจียน
- มีอาการปวดท้อง และมีไข้
- ถ่ายมากผิดปกติ (มากกว่า 8-10 ครั้งต่อวัน) และมักถ่ายเหลวเป็นน้ำ
- ซึม ไม่มีแรง อ่อนเพลีย มือเท้าเย็น
การป้องกัน
หลีกเลี่ยงอาหารสุก ๆ ดิบ ๆ หรือผ่านความร้อนไม่เพียงพอ, อาหารที่ปรุงสุกไว้นานแล้ว โดยไม่มีการอุ่นร้อน โดยเฉพาะอาหารที่มีกะทิเป็นส่วนผสม, อาหารที่มีแมลงวันตอม, น้ำแข็งที่ดูสกปรก หรืออาจผลิตไม่ได้มาตรฐาน รวมถึงเครื่องดื่มเย็น ไอศกรีม และขนมหวานต่าง ๆ ด้วย
การรักษาพยาบาลตนเองเบื้องต้น เมื่อเริ่มมีอาการ
- ดื่มน้ำมาก ๆ สามารถดื่มน้ำเกลือแร่สำหรับผู้ที่มีอาการท้องเสียได้
- สามารถรับประทานยาตามอาการได้ เช่น ยาแก้คลื่นไส้ ยาแก้ไข้ เป็นต้น โดยไม่จำเป็นต้องรับประทานยาปฏิชีวนะ เพราะผู้ป่วยจะอาการดีขึ้นเองใน 24-48 ชั่วโมง
- งดทำกิจกรรมหนัก ๆ และพักผ่อนให้เพียงพอ
- งดรับประทานอาหารรสจัด อาหารประเภทนม ผลไม้ และอาหารที่ควรหลีกเลี่ยง ดังที่กล่าวไปแล้วข้างต้น รวมถึงอาหารหมักดองด้วย
3. โรคพิษสุนัขบ้า
เป็นโรคติดเชื้อในระบบประสาทจากสัตว์สู่คน ไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ โดยพบได้ในสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมชนิดอื่น ๆ นอกเหนือจากสุนัขด้วย เช่น แมว ค้างคาว ลิง ม้า กระต่าย เม่น เป็นต้น โรคพิษสุนัขบ้าติดต่อได้โดยการสัมผัสกับน้ำลายของสัตว์เมื่อถูกกัด ข่วน หรือเลียบริเวณที่ร่างกายมีบาดแผล หรือเยื่อบุต่าง ๆ รวมถึงการชำแหละซากสัตว์ และรับประทานเนื้อสัตว์ดิบจากสัตว์ที่ติดเชื้อดังกล่าวด้วย
ปกติแล้วโรคพิษสุนัขบ้าเกิดขึ้นได้ตลอดทั้งปี แต่จำนวนผู้ป่วยถูกสุนัขกัดมักสูงขึ้นในช่วงฤดูร้อน เนื่องจากเป็นช่วงปิดเทอม ที่เด็ก ๆ มักอยู่บ้าน จึงเกิดเหตุสุนัขกัดเพิ่มมากขึ้น ประกอบกับสุนัขมักหงุดหงิดมากกว่าปกติในฤดูร้อนด้วย
อาการ
- รู้สึกไม่สบายตัว มีไข้ เบื่ออาหาร และกระสับกระส่าย
- นอนไม่หลับ ไวต่อแสง เสียง มักเกิดภาพหลอน หลั่งน้ำลายมาก คอหอยหดเกร็งเมื่อสัมผัสของเหลว
- กลัวน้ำ เป็นอัมพาตทั่วร่างกาย เซื่องซึมลงเรื่อย ๆ จนภาวะหัวใจล้มเหลว และเสียชีวิตในที่สุด
การป้องกัน
- พาสัตว์เลี้ยงไปฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าตามกำหนดเป็นประจำทุกปี
- ไม่เข้าไปจับ แหย่ หรือทำให้สัตว์โมโห โดยเฉพาะสัตว์ที่ไม่รู้จักหรือไม่มีเจ้าของ รวมถึงสัตว์ป่าด้วย
- สำหรับผู้ที่มีความเสี่ยงสูง เช่น ผู้ประกอบอาชีพปศุสัตว์ สัตว์แพทย์ หรือผู้ที่อยู่ในพื้นที่ห่างไกลและมีการระบาดของโรค สามารถฉัดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าแบบป้องกันล่วงหน้าได้
การรักษาพยาบาลตนเองเบื้องต้น เมื่อถูกสัตว์กัด
- ล้างแผลด้วยน้ำสะอาดและสบู่หลาย ๆ ครั้ง อย่างน้อย 15 นาที เช็ดแผลให้แห้ง แล้วใส่ยาฆ่าเชื้อ
- สังเกตอาการของสัตว์ที่กัด โดยเฉพาะสัตว์ที่ไม่รู้จัก เพราะโอกาสที่ไม่ได้ฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้างสูง
- ไปพบแพทย์เพื่อฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าและบาดทะยัก หากมีสมุดวัคซีนหรือประวัติการรับวัคซีนควรนำไปด้วย
4. ภาวะซึมเศร้าในช่วงฤดูร้อน (Summer Seasonal Depression)
หากเทียบกับภาวะซึมเศร้าในฤดูหนาว ที่เกิดจากการขาดแสงแดดเป็นเวลานานแล้ว ภาวะซึมเศร้าในฤดูร้อนอาจไม่เป็นที่รู้จักและตระหนักรู้เท่าไรนัก โดยภาวะซึมเศร้าในฤดูร้อน เกิดจากไอร้อน ความชื้น แสงแดดจ้า และฝุ่นควันหรือฝุ่นเกสรดอกไม้ นอกจากนั้น อาการของภาวะซึมเศร้าในช่วงฤดูร้อนยังตรงกันข้ามกับอาการของภาวะซึมเศร้าในฤดูหนาวด้วย
อาการ
- ความสุขของผู้ป่วยลดลง
- ไม่หิว ไม่อยากอาหาร
- นอนไม่หลับ
- เศร้า แต่ไม่ซึม มักมีอาการปั่นป่วนและกระวนกระวายใจ แต่ยังมีพลังงานในการทำสิ่งต่าง ๆ ซึ่งถือเป็นสัญญาณอันตราย เนื่องจาก ผู้ป่วยมีโอกาสฆ่าตัวตายสำเร็จมากกว่าผู้ป่วยภาวะซึมเศร้าฤดูหนาว ที่มักเซื่องซึม ไม่มีพลังงาน และนอนมากจนเกินไป
การป้องกัน
- ทำร่างกายให้เย็นลง เช่น อาบน้ำเย็น
- เปิดเครื่องปรับอากาศ เพื่อให้อุณหภูมิเย็นลงตลอดเวลา
การรักษา
สังเกตอารมณ์ความรู้สึกของตนเอง หากรู้สึกเศร้ากว่าปกติ ให้รีบไปพบแพทย์
ข้อควรทราบ :
(1) กรณีเลือกทำโครงการโอชิ สมอล เฮลท์ (Ochi Small Health Package) แผน 3
(2) การรักษาในสถานพยาบาล คลินิกในเครือข่ายโดยไม่ต้องสำรองจ่าย เป็นไปตามเงื่อนไขที่บริษัทฯ กำหนด
- โครงการโอชิ สมอล เฮลท์ (Ochi Small Health Package) เป็นชื่อทางการตลาดของแบบประกันโอเชี่ยนไลฟ์ สมาร์ท โพรเทคชั่น 99/99 แนบสัญญาเพิ่มเติมคุ้มครองสุขภาพ สมอล เฮลท์ (Small Health) และบันทึกสลักหลังค่ารักษาพยาบาลแบบผู้ป่วยนอก (OPD)
- การรับประกันภัยเป็นไปตามเงื่อนไข และหลักเกณฑ์ที่บริษัทฯ กำหนด
- ความคุ้มครองและการจ่ายผลประโยชน์ต่างๆ เป็นไปตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้ในกรมธรรม์
- ข้อมูลในเอกสารนี้เป็นเพียงข้อมูลเบื้องต้นของผลิตภัณฑ์ประกันภัย ผู้ขอเอาประกันภัย/ผู้เอาประกันภัยควรศึกษาข้อมูลเพิ่มเติม และทำความเข้าใจในรายละเอียดเงื่อนไขความคุ้มครอง ผลประโยชน์ และข้อยกเว้น ก่อนตัดสินใจทำประกันภัยทุกครั้ง เมื่อได้รับกรมธรรม์ประกันภัยแล้วโปรดศึกษาเพิ่มเติม
อ้างอิง :
โรงพยาบาลศิริราช ปิยมหาราชย์การุณ 1, 2
RAMA CHANNEL โดยโรงพยาบาลรามาธิบดี
โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ 1, 2
สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ
คณะสัตวแพทย์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล
สถาบันโรคผิวหนัง
โรงพยาบาลเวิลด์เมดิคอล
The Washington Post