ประกันสะสมทรัพย์ VS กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ตัวช่วยสร้างเงินก้อนวัยเกษียณ

หลายคนรู้อยู่แล้วว่า “ประกันสะสมทรัพย์” และ “กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ (PVD)” มีความแตกต่างกัน ทั้งในด้านผลประโยชน์ และสิทธิประโยชน์ทางภาษี แต่ความเข้าใจผิดที่พบได้บ่อยคือ คิดว่ามีกองทุนสำรองเลี้ยงชีพอย่างเดียวก็เพียงพอสำหรับเกษียณแล้ว ทั้งที่จริงแล้ว “การมีทั้งสองอย่าง” จะช่วยให้แผนเกษียณมีความมั่นคงยิ่งขึ้น ทั้งในด้านผลตอบแทน การออมแบบมีวินัย และความคุ้มครองที่ครอบคลุมกว่า
 

ประกันสะสมทรัพย์ คืออะไร

ประกันสะสมทรัพย์ คือ การประกันชีวิตที่ผู้เอาประกันภัยจะจ่ายเบี้ยประกันภัยตามระยะเวลาที่กำหนด และจะได้รับเงินครบกำหนดสัญญา และอาจมีเงินคืนระหว่างสัญญาให้ตามที่กำหนดไว้ในกรมธรรม์ หรือบริษัทประกันชีวิตจะจ่ายเงินเอาประกันภัย ให้แก่ผู้รับผลประโยชน์เมื่อผู้เอาประกันภัยเสียชีวิตลงภายในระยะเวลาเอาประกันภัย  

อ่านรายละเอียดเกี่ยวกับประกันสะสมทรัพย์ได้ที่บทความนี้


กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ คืออะไร

กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ หรือ Provident fund (PVD) เป็นกองทุนที่ลูกจ้างและนายจ้างร่วมกันจัดตั้งขึ้นโดยสมัครใจ โดยเงินของกองทุนมาจากเงินที่ลูกจ้างนำส่งส่วนหนึ่ง เรียกว่า "เงินสะสม" และนายจ้างนำส่งอีกส่วนหนึ่ง เรียกว่า "เงินสมทบ" เป็นประจำทุกเดือน ซึ่งจะถูกนำไปลงทุนเพื่อให้เติบโตขึ้นในระยะยาว เรียกได้ว่า นอกจากลูกจ้างจะออมเงินเองอย่างต่อเนื่องและมีวินัยแล้ว นายจ้างยังช่วยลูกจ้างออมอีกแรงด้วย ซึ่งถือเป็นสวัสดิการรูปแบบหนึ่งที่ให้แก่ลูกจ้าง เพื่อไว้ใช้จ่ายในยามเกษียณอายุ
 

ความแตกต่างของประกันสะสมทรัพย์ VS กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ

ด้านผลประโยชน์

ประกันสะสมทรัพย์

  • ให้ผลตอบแทน “คงที่และแน่นอน” ตามที่ระบุในกรมธรรม์
  • เหมาะสำหรับคนที่ต้องการความมั่นคง และไม่ต้องการรับความเสี่ยงจากความผันผวนของตลาด
  • มักมีเงินคืนครบกำหนดสัญญา และอาจมีเงินคืนระหว่างสัญญา

กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ

  • ผลตอบแทน “ผันผวนตามตลาด” จึงมีโอกาสที่จะขาดทุนหรือได้กำไร และได้ผลตอบแทนที่ได้อาจสูงหรือต่ำกว่าที่คาดไว้ก็ได้
  • มี "เงินสมทบจากนายจ้าง" โดยบางแห่งให้เงินสมทบตามอายุงาน บางแห่งสมทบแบบคงที่ ขึ้นอยู่กับนโยบายของบริษัท
     

ความคุ้มครองกรณีเสียชีวิต

ประกันสะสมทรัพย์

มีความคุ้มครองชีวิต หากผู้เอาประกันภัยเสียชีวิตในระหว่างที่กรมธรรม์มีผลบังคับ ผู้รับผลประโยชน์จะได้เงินสินไหมตามที่กำหนดไว้ในกรมธรรม์

กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ

ไม่มีความคุ้มครองชีวิต หากเสียชีวิต ผู้จัดการกองทุนจะต้องจ่ายเงินกองทุนให้แก่ “ผู้รับผลประโยชน์” ที่สมาชิกระบุไว้ โดยจำนวนเงินที่ผู้รับผลประโยชน์จะได้รับขึ้นอยู่กับเงื่อนไขที่กำหนดไว้ในข้อบังคับกองทุน ซึ่งโดยส่วนใหญ่จะกำหนดให้กองทุนจ่ายเงินทั้ง 4 ส่วน คือ เงินสะสม ผลประโยชน์ของเงินสะสม เงินสมทบ และผลประโยชน์ของเงินสมทบ ให้แก่ผู้รับผลประโยชน์

ทั้งนี้ หากไม่ได้ระบุชื่อผู้รับผลประโยชน์ไว้ หรือระบุไว้คนเดียว หรือหลายคน แต่บุคคลทั้งหมดเสียชีวิต กฎหมายกำหนดให้จ่ายเงินกองทุนให้แก่บุคคล 3 กลุ่มได้แก่ บุตร บิดามารดา และสามีหรือภรรยา หรือกรณีสมาชิกระบุชื่อผู้รับผลประโยชน์ไว้มากกว่าหนึ่งคนและมีผู้รับผลประโยชน์คนใดคนหนึ่งเสียชีวิต เงินในส่วนที่ผู้รับผลประโยชน์ดังกล่าวมีสิทธิที่จะได้รับ ให้เป็นไปตามความประสงค์ของสมาชิกที่ระบุไว้ในหนังสือแจ้งรายชื่อบุคคลผู้รับผลประโยชน์
 

การชำระเบี้ยประกันภัย / การส่งเงินสะสม

ประกันสะสมทรัพย์

  • ชำระเบี้ยประกันภัยได้ตามระยะเวลาที่เลือก เช่น รายปี ราย 6 เดือน ราย 3 เดือน และรายเดือน เป็นต้น
  • เป็นระบบ “บังคับออม*” ทำให้เก็บเงินได้จริง

กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ

  • หักเงินเดือนตามเปอร์เซ็นต์ที่เลือก ตั้งแต่ 2-15% ของเงินเดือน โดยต้องส่งเงินสะสมเป็นรายเดือนเท่านั้น
  • มีความยืดหยุ่น สามารถปรับเพิ่ม-ลดเปอร์เซ็นต์การออมได้ตามเงื่อนไขบริษัท
     

การขอทำประกัน / เข้าร่วมกองทุน

ประกันสะสมทรัพย์

ประกันสะสมทรัพย์แต่ละแบบจะมีการกำหนดอายุรับประกันภัยเอาไว้ โดยบางแบบสามารถทำได้ตั้งแต่อายุเพียง 30 วัน ส่วนอายุที่มากที่สุดที่จะสามารถทำประกันสะสมทรัพย์ได้ บางแบบกำหนดไว้ไม่เกิน 60 ปี แต่ก็มีบางแบบที่กำหนดไว้สูงกว่านั้น นอกจากนั้นประกันสะสมทรัพย์บางแบบอาจขอให้มีการตรวจสุขภาพหรือแถลงสุขภาพในใบคำขอเอาประกันภัย แต่บางแบบก็ไม่มี ดังนั้น การขอทำประกันสะสมทรัพย์จึงไม่ใช่เรื่องยาก แม้จะมีข้อจำกัดอยู่บ้าง แต่ก็มีแค่บางแบบเท่านั้น

กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ
ทำได้เฉพาะ “ลูกจ้างของบริษัทหรือองค์กรที่มีการจัดตั้งกองทุน” เท่านั้น
 

เงินคืนระหว่างสัญญา / ผลประโยชน์ระหว่างการเป็นสมาชิก

ประกันสะสมทรัพย์

อาจมีเงินคืนระหว่างสัญญาให้ เช่น ประกันสะสมทรัพย์ โอเชี่ยนไลฟ์ ออมสบาย 10/4 มีเงินคืนระหว่างสัญญา ณ ปีกรมธรรม์ที่ 1-9 ปีละ 20% ของจำนวนเงินเอาประกันภัย

กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ

ไม่มีผลตอบแทนระหว่างสัญญาเป็นพิเศษ แม้จะมีผลประโยชน์จากเงินสะสมและเงินสมทบ ที่จะมีการแจ้งยอดปีละ 2 ครั้ง แต่ก็ไม่สามารถนำเงินส่วนนี้มาใช้ได้ ต้องรอสิ้นสุดการเป็นสมาชิกเท่านั้น
 

ครบกำหนดสัญญา / สิ้นสุดการเป็นสมาชิก

ประกันสะสมทรัพย์

เมื่อถึงวันครบกำหนดสัญญา โดยที่ผู้เอาประกันภัยจ่ายเบี้ยประกันภัยครบ และไม่ได้มีการกู้เงินตามกรมธรรม์ ผู้เอาประกันภัยจะได้รับเงินครบกำหนดสัญญาตามที่ระบุไว้ในกรมธรรม์ เช่น โอเชี่ยนไลฟ์ ออมสบาย 10/4  จะจ่ายเงินครบกำหนดสัญญาให้กับผู้เอาประกันภัย 269% ของจำนวนเงินเอาประกันภัย เป็นต้น

สนใจประกันสะสมทรัพย์ โอเชี่ยนไลฟ์ ออมสบาย 10/4 คลิก 

จะเห็นได้ว่า เกณฑ์การได้เงินครบกำหนดสัญญาของประกันสะสมทรัพย์นั้นไม่ซับซ้อนมากนัก เมื่อมีชีวิตอยู่จนถึงวันครบกำหนดสัญญาก็สามารถได้รับเงินครบกำหนดสัญญาตามเงื่อนไขกรมธรรม์แล้ว

กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ

เมื่อเกษียณอายุ สมาชิกกองทุนจะได้รับเงินกองทุนครบทั้ง 4 ส่วน ได้แก่ เงินสะสม ผลประโยชน์ของเงินสะสม เงินสมทบ และผลประโยชน์ของเงินสมทบ แต่หากสมาชิกลาออกจากงานตอนอายุไม่ถึง 55 ปี โดยอาจไปทำงานกับนายจ้างรายใหม่ที่ไม่มีสวัสดิการกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ โดนให้ออก หรือประกอบอาชีพอิสระ สมาชิกอาจได้รับเงินกองทุนไม่ครบทั้ง 4 ส่วน เช่น หากเป็นสมาชิกกองทุนน้อยกว่า 3 ปี สมาชิกจะได้รับแค่เงินสะสม และผลประโยชน์ของเงินสะสม แต่ไม่ได้รับเงินสมทบ และผลประโยชน์ของเงินสมทบเลย เป็นต้น
 

สิทธิประโยชน์ทางภาษี

ประกันสะสมทรัพย์
ต้องเป็นประกันสะสมทรัพย์มีระยะเวลาคุ้มครองอย่างน้อย 10 ปี หากมีการจ่ายเงินคืนทุกปีระหว่างทาง เงินคืนที่จ่ายจะต้องไม่เกินร้อยละ 20 ของค่าเบี้ยประกันภัยรายปี โดยเบี้ยประกันชีวิตสามารถนำไปใช้อ้างอิงลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสูงสุดถึง 100,000 บาทต่อปี

กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ
เงินสะสมที่สมาชิกนำส่งเข้ากองทุนสามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้ตามที่จ่ายจริง สูงสุดไม่เกิน 15% ของรายได้ และเมื่อรวมกับเงินออมเพื่อการเกษียณอายุประเภทอื่น ต้องไม่เกิน 500,000 บาท

การมีกองทุนสำรองเลี้ยงชีพถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีมากสำหรับการเตรียมความพร้อมวัยเกษียณ เพราะมีเงินสมทบจากนายจ้างแต่ก็ยังมีข้อจำกัดสำคัญ เช่น ความผันผวนของผลตอบแทน และทำได้เฉพาะพนักงานบริษัทเท่านั้น

สำหรับคนที่ ไม่สามารถเข้าร่วมกองทุนสำรองเลี้ยงชีพได้ เช่น ฟรีแลนซ์ อาชีพอิสระ หรือคนที่เปลี่ยนงานบ่อย ประกันสะสมทรัพย์จึงเป็นตัวเลือกที่ดี ช่วยสร้างวินัยออม และได้รับความคุ้มครองชีวิตไปพร้อมกัน

ส่วนผู้ที่ มีกองทุนอยู่แล้ว การมีประกันสะสมทรัพย์เพิ่มจะช่วยในเรื่องต่อไปนี้

  • กระจายความเสี่ยง ไม่ต้องพึ่งพาเงินลงทุนที่ผันผวนเพียงอย่างเดียว
  • สร้างเงินก้อนที่ “รู้ยอดแน่นอน” เมื่อครบสัญญา
  • เพิ่มความคุ้มครองชีวิต ซึ่งกองทุนสำรองเลี้ยงชีพไม่มี
  • ช่วยให้แผนเกษียณมั่นคงขึ้น ทั้งจากสินทรัพย์ที่เสี่ยงและสินทรัพย์ที่การันตีผลตอบแทน

สนใจทำประกันสะสมทรัพย์ OCEAN LIFE ไทยสมุทรประกันชีวิต รวม 3 ตัวท็อปไว้ให้แล้ว คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่
 

ข้อควรทราบ : 

* เป็นการออมเงินในรูปแบบประกันชีวิต

  • การรับประกันภัยเป็นไปตามเงื่อนไขและหลักเกณฑ์ที่บริษัทฯ กำหนด
  • ความคุ้มครองและการจ่ายผลประโยชน์ต่าง ๆ เป็นไปตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้ในกรมธรรม์
  • เบี้ยประกันชีวิต สามารถนำไปอ้างอิงลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาตามหลักเกณฑ์ที่กรมสรรพากรกำหนด 
  • ผู้เอาประกันภัยที่ประสงค์จะนำเบี้ยประกันชีวิต ไปอ้างอิงลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ต้องแจ้งความประสงค์และยินยอมให้บริษัทฯ นำส่งข้อมูลเบี้ยประกันชีวิต ให้กรมสรรพากร
  • ข้อมูลในเอกสารนี้เป็นเพียงข้อมูลเบื้องต้นของผลิตภัณฑ์ประกันภัย ผู้ขอเอาประกันภัย/ผู้เอาประกันภัยควรศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมและทำความเข้าใจในรายละเอียดเงื่อนไขความคุ้มครอง ผลประโยชน์ และข้อยกเว้น ก่อนตัดสินใจทำประกันภัยทุกครั้ง เมื่อได้รับกรมธรรม์แล้วโปรดศึกษาเพิ่มเติม

ข้อมูลอ้างอิง :

https://www.thaipvd.com
https://www.set.or.th

สิทธิพิเศษที่เกี่ยวข้อง

OCEAN CLUB APP ใช้ชีวิตดี๊ดี กับ OCHI COIN

OCEAN CLUB APP #HEALTHIVERSE

ฟีเจอร์ล่าสุด ให้คุณ TOP FORM ด้านสุขภาพ

QR Code Application
ดาวน์โหลดเลย
OCEAN CLUB APP

บอกข้อมูลสั้นๆ เกี่ยวกับตัวคุณ
เพื่อค้นหาผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสม

ฉันต้องการค้นหาเกี่ยวกับ