หากถามว่าตอนนี้ ประชากรในวัยทำงานของประเทศไทยอยู่ใน Generation ไหนมากที่สุด คำตอบคงหนีไม่พ้น Generation Y หรือ GEN Y วันนี้ OCEAN LIFE ไทยสมุทรประกันชีวิตจะพาทุกคนมารู้จักกับ GEN Y ผู้ขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคม ที่สำคัญแห่ง พ.ศ. นี้กัน
GEN Y คือใคร
GEN Y หรือที่มักเรียกกันว่า "มิลเลนเนียล (Millennials)" หมายถึงกลุ่มคนที่เกิดระหว่าง ปี พ.ศ. 2524 – 2539 (ค.ศ. 1981 – 1996) ซึ่งในปัจจุบันคนกลุ่มนี้มีอายุประมาณ 29–44 ปี แล้ว โดยเติบโตมาในช่วงที่ เทคโนโลยีเริ่มเข้ามามีบทบาทมากขึ้นในชีวิตประจำวัน โดยเฉพาะอินเทอร์เน็ต คอมพิวเตอร์ โทรศัพท์มือถือ และสมาร์ทโฟน อีกทั้งยังเป็นรุ่นที่เปลี่ยนผ่านจากยุคอนาล็อกสู่ดิจิทัล ทำให้มีความสามารถในการปรับตัว ใช้เทคโนโลยีได้ดี และมักมองหาความสมดุลระหว่างงานกับชีวิตส่วนตัว (work-life balance)
GEN Y ผ่านอะไรมาบ้าง
คนรุ่นนี้เติบโตและใช้ชีวิตผ่านช่วงเวลาสำคัญหลายอย่างในประเทศไทย ซึ่งส่งผลต่อมุมมอง ทัศนคติ และวิธีคิดของพวกเขา เช่น
- การเปลี่ยนผ่านเข้าสู่ยุคอินเทอร์เน็ต และเหตุการณ์ Y2K
GEN Y เป็นรุ่นที่เริ่มต้นใช้งานอินเทอร์เน็ตจากยุคโมเด็มความเร็วต่ำ ไปจนถึงสมาร์ตโฟน 5G และยังมีโอกาสได้สัมผัสกับปรากฏการณ์แรก ๆ ที่มีผลมาจากเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์อย่าง Y2K อีกด้วย ส่งผลให้ GEN Y มีความสามารถทางดิจิทัลสูงและเปิดรับเทคโนโลยีใหม่ได้ดี แต่ในขณะเดียวกันก็รู้จัก ระแวดระวังผลพวงต่าง ๆ จากเทคโนโลยีและโลกอินเทอร์เน็ต
- การแข่งขันทางด้านการศึกษา และการเปลี่ยนแปลงระบบสอบเข้ามหาวิทยาลัย
ระบบการศึกษาในไทยมีการแข่งขันสูงขึ้น GEN Y ในช่วงวัยรุ่นจึงมักเรียนพิเศษเพื่อให้ตัวเองก้าวนำ เพื่อนในรุ่นเดียวกันอยู่เสมอ ทำให้ธุรกิจโรงเรียนกวดวิชามีเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด นอกจากนั้น GEN Y ที่เกิดตั้งแต่ปี 2530-2531 ต้องเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงทางการศึกษาครั้งยิ่งใหญ่ เพราะได้มีการเปลี่ยนจาก ระบบเอ็นทรานซ์ที่ใช้มายาวนานถึง 42 ปี ไปเป็นระบบแอดมิชชันเป็นปีแรกในปี 2549 ทำให้ GEN Y จำนวนไม่น้อยที่เตรียมตัวสำหรับสอบเอ็นทรานซ์มาแล้ว ต้องมาเตรียมตัวกันใหม่ สร้างความกดดันให้เด็ก ๆ รุ่นนั้นและรุ่นต่อมาเป็นอย่างมาก ส่งผลให้ GEN Y เป็นกลุ่มที่เคยชินกับการแข่งขัน มักขยันทำงาน เพราะถูกสังคมบ่มเพาะให้มีเป้าหมายชีวิต แต่ในขณะเดียวกันก็เกิดอาการ Burnout ได้ง่าย เพราะกดดันตัวเองมากเกินไป
- เหตุการณ์สึนามิปี 2547 และน้ำท่วมใหญ่ปี 2554
เหตุการณ์สึนามิปี 2547 เป็นหนึ่งในภัยพิบัติร้ายแรงที่สุดในประเทศไทยที่สร้างผลกระทบทางจิตใจอย่างมาก โดยเฉพาะกลุ่ม GEN Y ที่เริ่มศึกษาในช่วงมหาวิทยาลัยแล้ว และมีภูมิลำเนาอยู่ที่ภาคใต้ ต่อมาในปี 2554 ประเทศไทยต้องเจอกับเหตุการณ์ภัยพิบัติครั้งใหญ่อีกครั้งอย่างน้ำท่วม ที่กินพื้นที่หลายจังหวัดรวมถึง กรุงเทพมหานครด้วย ในช่วงนั้น GEN Y จำนวนไม่น้อยเริ่มเข้าสู่ชีวิตทำงาน ที่อาจต้องถูกให้ออกจากงาน เนื่องจากบริษัทได้รับความเสียหายจากน้ำท่วม ส่วน GEN Y ที่อายุน้อยกว่า ก็ได้รับผลกระทบด้านการเรียน เพราะต้องหยุดเรียนเป็นเวลาร่วมเดือน
การประสบพบเจอภัยพิบัติในช่วงระยะเวลาที่ต่างกันแค่ 7 ปี หล่อหลอมให้ GEN Y หลาย ๆ คนสนใจวางแผนทางการเงิน เพราะรู้ว่าอาจมีสถานการณ์ที่ตนเองไม่สามารถควบคุมได้ในอนาคต
- การเติบโตของกระแสความตื่นตัวเรื่องสิทธิของ LGBTQ+
GEN Y เป็นกลุ่มที่เปิดกว้างเรื่องความหลากหลายทางเพศมากขึ้นกว่ารุ่นก่อน ๆ และเติบโตมาในช่วงที่ สังคมไทยเริ่มพูดถึงสิทธิ ความเท่าเทียม และการยอมรับความหลากหลายอย่างจริงจัง ไม่ว่าจะเป็น การยอมรับตัวตนของกลุ่ม LGBTQ+ ในสื่อและวงการต่าง ๆ จนประเทศไทยเริ่มมีชื่อเสียงด้านซีรีส์วาย รวมถึงการรณรงค์กันอย่างจริงจังจนเกิดเป็นกฏหมายสมรสเท่าเทียมด้วย
- การระบาดของโรคติดต่อ เช่น H1N1 และ COVID-19
โดยเฉพาะ COVID-19 ในปี 2563 ที่ผ่านมาส่งผลกระทบอย่างมากต่อการทำงาน รายได้ และการใช้ชีวิต ของคน GEN Y ซึ่งอยู่ในวัยทำงานและมีภาระรับผิดชอบในฐานะ Sandwich Generation ที่ต้องดูแลทั้งพ่อแม่ ที่สูงอายุกว่า และลูก ๆ ที่ยังเด็ก ดังนั้น แม้ GEN Y จะเหนื่อยแค่ไหน และกลัวโรคระบาดเพียงใด แต่ก็ต้องเข้มแข็ง และคอยดูแลสุขภาพตัวเองอยู่เสมอ
สิ่งที่ GEN Y ให้ความสำคัญ
- คุณภาพชีวิตและสมดุลชีวิตการทำงาน (Work-Life Balance)
ด้วยความที่ GEN Y เป็น Sandwich Generation ที่แวดล้อมไปด้วยสมาชิกในครอบครัว จึงมักหาเวลาว่าง อยู่กับครอบครัวเสมอ ไม่ได้ทำงานหนักจนไม่มีเวลาให้ครอบครัวเหมือนคนในรุ่นก่อน และนอกจาก ครอบครัวแล้ว GEN Y ยังถือเป็นคนรุ่นแรก ๆ ที่ตระหนักรู้ปัญหาสุขภาพจิต เพราะเคยขับเคี่ยวในสนามแข่งขัน มาตั้งแต่สมัยสอบเข้ามหาวิทยาลัย Gen Y จึงมักหาทางผ่อนคลายจิตใจตัวเอง และหารางวัลให้กับกับชีวิต ไม่ว่าจะเป็นการท่องเที่ยว ได้ลิ้มรสอาหารอร่อย ตระเวนคาเฟ่สวย ๆ กาแฟดี ๆ หรือไปคอนเสิร์ตของศิลปินที่รัก
- ความก้าวหน้าและความยืดหยุ่นในการทำงาน
GEN Y ให้ความสำคัญกับงานที่มีความหมาย มีโอกาสพัฒนา และสามารถปรับเปลี่ยนรูปแบบการทำงานได้ เช่น ทำงานจากที่บ้าน จึงไม่ยึดติดกับการทำงานที่เดียวไปตลอดชีวิต แม้ว่า GEN Y จะมีแนวโน้มเปลี่ยนงาน บ่อยกว่าคนรุ่นก่อน แต่ก็ยังมีความทุ่มเทต่อองค์กร โดยเฉพาะ GEN Y ในสังคมการทำงานไทย มักได้รับบท “เดอะแบก” ที่ต้องรับคำสั่งจากผู้อาวุโสกว่า ในขณะเดียวกันก็ต้องสอนงานและดูแลพนักงานรุ่นน้อง
- การดูแลสุขภาพกายและใจ
Gen Y เติบโตมาในยุคที่ข้อมูลด้านสุขภาพเข้าถึงง่าย มีเทรนด์รักสุขภาพชัดเจน โดยการออกกำลังกายของ GEN Y ได้รับอิทธิพลมาจากอินฟลูเอนเซอร์ด้านการออกกำลังกายต่าง ๆ ทางโซเชียลมีเดีย เช่น วิ่ง เวทเทรนนิ่ง โยคะ เป็นต้น นอกจากนั้นยังรวมไปถึงการกิน GEN Y เป็นผู้ริเริ่มกินอาหารคลีน อาหารวีแกน รวมไปถึงการลดแป้งและน้ำตาล แต่เน้นโปรตีน เพื่อสร้างเสริมความแข็งแรงให้กับร่างกายด้วย
นอกจากนั้น GEN Y ยังให้ความสำคัญกับสุขภาพจิตด้วย เมื่อรู้สึกไม่สบายใจ หรือมีภาวะทางใจต่าง ๆ จึงกล้าเข้าถึงนักจิตวิทยามากกว่าคนรุ่นก่อน ๆ
- ความมั่นคงทางการเงิน และการลงทุน
GEN Y เติบโตในยุคที่ไลฟ์โค้ชทางด้านการเงินเริ่มเป็นที่รู้จัก หลาย ๆ คนจึงสนใจการออม การลงทุน และวางแผนการเงินตั้งแต่อายุยังน้อย เพราะเห็นความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจและประสบการณ์ จากเหตุการณ์ที่ผ่านมา
ทำไม GEN Y ควรทำประกัน
ผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตเหมาะสมกับสิ่งที่ GEN Y ให้ความสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการดูแลสุขภาพกายและใจ และความมั่นคงทางการเงิน โดยเฉพาะประกันสุขภาพที่ตอบโจทย์ GEN Y ในยามที่เจ็บป่วย เพราะเมื่อมี บริษัทประกันชีวิตเป็นผู้ดูแลค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลแล้ว GEN Y ก็ไม่จำเป็นต้องทำงานหนัก จนเกินพอดี เพื่อมาเป็นเงินสะสมฉุกเฉินยามเจ็บป่วย ทำให้สามารถสร้างสมดุลให้กับชีวิตตัวเองได้ อีกทั้งความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจและปัญหาอัตราเงินเฟ้อ ยังส่งผลให้ค่ารักษาพยาบาลสูงขึ้นทุกปีอีกด้วย การมีประกันสุขภาพ จะช่วยคลายความกังวลด้านค่ารักษาพยาบาลให้กับ GEN Y เพราะไม่ว่าค่ารักษาพยาบาล จะสูงขึ้นขนาดไหน หากตรงตามกับเงื่อนไขที่ระบุไว้ในกรมธรรม์ บริษัทประกันจะจ่ายค่ารักษาตามจริง ตามใบเสร็จที่ได้รับจากโรงพยาบาล
OCEAN LIFE ไทยสมุทรประกันชีวิต แนะนำประกันสุขภาพโอเชี่ยนไลฟ์ เอ็นจอย เฮลท์ เอ็กซ์ตร้า สำหรับ GEN Y มาพร้อม 3 ฟังก์ชัน ได้แก่
- คุ้มครองค่ารักษาพยาบาลผู้ป่วยในแบบ “เหมาจ่ายหลักล้าน” สูงสุด 5 ล้านบาทต่อครั้ง* แม้ว่าจะป่วยหนักจนต้องนอนโรงพยาบาลนาน ๆ ก็ไม่ต้องกังวลว่าครอบครัวจะรับภาระค่าใช้จ่าย
- เจ็บป่วยที่ไหน ก็เข้าโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุดได้ โดยไม่ต้องคอยเช็ก “ค่าห้อง” เพราะประกันโอเชี่ยนไลฟ์ เอ็นจอย เฮลท์ เอ็กซ์ตร้า ให้ความคุ้มครองค่าห้องเดี่ยวมาตรฐานของทุกโรงพยาบาลชั้นนำ ไม่ว่าค่าห้องพักเดี่ยวมาตรฐานเริ่มต้นจะ 2,000 5,000 หรือ 20,000 บาท โอเชี่ยนไลฟ์ เอ็นจอย เฮลท์ เอ็กซ์ตร้าก็จ่ายจัดเต็มตามนั้น ไม่มีลิมิตค่าห้องพัก**
- คุ้มครองค่าบริการทางการแพทย์สำหรับการล้างไตผ่านเส้นเลือด รวมถึงค่าบำบัดรักษาโรคเนื้องอกหรือมะเร็ง ไม่ว่าจะเป็นแบบรังสีรักษา หรือเคมีบำบัด
สนใจประกันสุขภาพโอเชี่ยนไลฟ์ เอ็นจอย เฮลท์ เอ็กซ์ตร้า คลิก
ข้อควรทราบ :
*กรณีเลือกทำสัญญาเพิ่มเติมคุ้มครองสุขภาพเอ็นจอย เฮลท์ เอ็กซ์ตร้า (Enjoy Health Extra) แผน 3 (D0/D20,000/D50,000/D100,000)
**คุ้มครองค่าห้องจ่ายตามจริงไม่เกินค่าห้องพักเดี่ยวมาตรฐาน
- โอเชี่ยนไลฟ์ เอ็นจอย เฮลท์ เอ็กซ์ตร้า เป็นชื่อทางการตลาดของสัญญาเพิ่มเติมคุ้มครองสุขภาพเอ็นจอย เฮลท์ เอ็กซ์ตร้า (Enjoy Health Extra)
- ห้องพักเดี่ยวมาตรฐาน หมายถึง ห้องพักเดี่ยวราคาเริ่มต้นของโรงพยาบาล
- การรับประกันภัยเป็นไปตามเงื่อนไขและหลักเกณฑ์ที่บริษัทฯ กำหนด
- ความคุ้มครองและการจ่ายผลประโยชน์ต่าง ๆ เป็นไปตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้ในกรมธรรม์
- สัญญาเพิ่มเติม/บันทึกสลักหลังมีระยะเวลาเอาประกันภัย 1 ปี ผู้เอาประกันภัยอาจขอต่ออายุสัญญาเพิ่มเติม/บันทึกสลักหลังได้ภายใต้เงื่อนไขสัญญาเพิ่มเติม ทั้งนี้ สำหรับปีต่ออายุ อาจมีการเปลี่ยนแปลงเบี้ยประกันภัย หรือให้ผู้เอาประกันภัยมีค่าใช้จ่ายร่วม (Copayment) ขึ้นอยู่กับอายุ ชั้นอาชีพ ค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลที่สูงขึ้น หรือจากประสบการณ์การจ่ายค่าสินไหมทดแทน ตามเงื่อนไข และหลักเกณฑ์ของบริษัท
- ค่าใช้จ่ายร่วม (Copayment) หมายถึง ความรับผิดระหว่างบริษัทประกันภัยและผู้เอาประกันภัยที่ต้องร่วมรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาล อันจะพึงจ่ายตามจำนวนเงินผลประโยชน์ภายหลังหักจำนวนความรับผิดส่วนแรก (ถ้ามี)
- ข้อมูลในเอกสารนี้เป็นเพียงข้อมูลเบื้องต้นของผลิตภัณฑ์ประกันภัย ผู้ขอเอาประกันภัย/ผู้เอาประกันภัยควรศึกษาข้อมูลเพิ่มเติม และทำความเข้าใจในรายละเอียดเงื่อนไขความคุ้มครอง ผลประโยชน์ และข้อยกเว้น ก่อนตัดสินใจทำประกันภัยทุกครั้ง เมื่อได้รับกรมธรรม์แล้วโปรดศึกษาเพิ่มเติม
อ้างอิง :