รับความเสี่ยงได้เท่านี้ ลดหย่อนแบบไหนดี ThaiESG vs ประกันสะสมทรัพย์

ประกันสะสมทรัพย์, กองทุน ThaiESG, ลดหย่อนภาษี
 

การวางแผนลดหย่อนภาษีเป็นเรื่องสำคัญ แต่หากเลือกผลิตภัณฑ์การเงินโดยไม่พิจารณาความเสี่ยงให้เหมาะสมกับตัวเอง อาจไม่ใช่แค่ลดหย่อนไม่คุ้ม แต่ยังทำให้สูญเงินต้นได้โดยไม่รู้ตัว โดยเฉพาะการลงทุนในกองทุนอย่าง ThaiESG ที่มีโอกาสผันผวนสูงกว่าประกันสะสมทรัพย์ซึ่งมีความเสี่ยงต่ำกว่าและให้ผลประโยชน์ตอบแทนคงที่ตามเงื่อนไขกรมธรรม์ บทความนี้จะพาคุณสำรวจความสามารถในการรับความเสี่ยงจากการลงทุนของตนเองด้วยแบบทดสอบจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) พร้อมเปรียบเทียบข้อดี ข้อจำกัดของกองทุน ThaiESG และ ประกันสะสมทรัพย์ เพื่อให้การลดหย่อนภาษีของคุณทั้งคุ้มค่าและสอดคล้องกับระดับความเสี่ยงที่รับได้จริง
 

ทำไมต้องรู้ระดับความเสี่ยงก่อนเลือกวิธีลดหย่อนภาษี

แต่ละคนมีความสามารถในการรับความเสี่ยงไม่เท่ากัน เช่น

  • บางคนไม่อยากให้เงินต้นหายแม้แต่น้อย
  • บางคนยอมรับความผันผวนระยะสั้นเพื่อผลตอบแทนระยะยาวได้

การเลือกลงทุนให้สอดคล้องกับระดับความเสี่ยงของตัวเอง จึงช่วยลดโอกาสเกิดความเครียด และเพิ่มโอกาสบรรลุเป้าหมายทางการเงิน

แบบทดสอบวัดระดับความเสี่ยงของนักลงทุน

1. ปัจจุบันคุณอายุ

ก. มากกว่า 55 ปี
ข. 45–55 ปี
ค. 35–44 ปี
ง. น้อยกว่า 35 ปี

2. ปัจจุบันคุณมีภาระทางการเงินและค่าใช้จ่ายประจำ เช่น ค่าผ่อนบ้าน รถ ค่าใช้จ่ายส่วนตัว และค่าเลี้ยงดู ครอบครัว เป็นสัดส่วนเท่าใด

ก. มากกว่า 75% ของรายได้ทั้งหมด
ข. 50–75% ของรายได้ทั้งหมด
ค. 25–50% ของรายได้ทั้งหมด
ง. น้อยกว่า 25% ของรายได้ทั้งหมด

3. คุณมีสถานะทางการเงินในปัจจุบันอย่างไร 

ก. มีทรัพย์สินน้อยกว่าหนี้สิน
ข. มีทรัพย์สินเท่าเทียมหนี้สิน
ค. มีทรัพย์สินมากกว่าหนี้สิน
ง. มีความมั่นใจว่ามีเงินออมหรือเงินลงทุนเพียงพอสำหรับการใช้ชีวิตหลังเกษียณอายุแล้ว

4. คุณเคยมีประสบการณ์หรือมีความรู้ในการลงทุนในทรัพย์สินกลุ่มใดต่อไปนี้บ้าง (เลือกได้มากกว่า 1ข้อ)

ก. เงินฝากธนาคาร
ข. พันธบัตรรัฐบาล หรือกองทุนรวมพันธบัตร
ค. หุ้นกู้ หรือกองทุนรวมตราสารหนี้
ง. หุ้นสามัญ กองทุนรวมหุ้น หรือสินทรัพย์เสี่ยงสูง

5. ระยะเวลาที่ไม่จำเป็นต้องใช้เงินลงทุนนี้

ก. ไม่เกิน 1 ปี
ข. 1–3 ปี
ค. 3–5 ปี
ง. มากกว่า 5 ปี

6. วัตถุประสงค์ในการลงทุนของคุณ

ก. เน้นเงินต้นต้องปลอดภัยและได้รับผลตอบแทนสม่ำเสมอแต่ต่ำได้
ข. เน้นโอกาสได้รับผลตอบแทนที่สม่ำเสมอแต่อาจเสี่ยงที่จะสูญเสียเงินต้นได้บ้าง มีความเสี่ยงเล็กน้อย
ค. เน้นโอกาสได้รับผลตอบแทนที่สูงขึ้น แต่อาจเสี่ยงที่จะสูญเสียเงินต้นได้มากขึ้น
ง. เน้นผลตอบแทนสูงสุดในระยะยาว แต่อาจเสี่ยงที่จะสูญเงินต้น ส่วนใหญ่ได้

7. เมื่อพิจารณารูปแสดงตัวอย่างผลตอบแทนของกลุ่มการลงทุนที่อาจเกิดขึ้นด้านล่าง คุณเต็มใจที่จะลงทุน ในกลุ่มการลงทุนใดมากที่สุด

ตารางแสดงกำไรและขาดทุนในการลงทุน

ก. กลุ่มการลงทุนที่ 1 มีโอกาสได้รับผลตอบแทน 2.5% โดยไม่ขาดทุนเลย 
ข. กลุ่มการลงทุนที่ 2 มีโอกาสได้รับผลตอบแทนสูงสุด 7% แต่อาจมีผลขาดทุนได้ถึง 1% 
ค. กลุ่มการลงทุนที่ 3 มีโอกาสได้รับผลตอบแทนสูงสุด 15% แต่อาจมีผลขาดทุนได้ถึง 5% 
ง. กลุ่มการลงทุนที่ 4 มีโอกาสได้รับผลตอบแทนสูงสุด 25% แต่อาจมีผลขาดทุนได้ถึง 15%

8. ถ้าคุณเลือกลงทุนในทรัพย์สินที่มีโอกาสได้รับผลตอบแทนมาก แต่มีโอกาสขาดทุนสูงด้วยเช่นกัน คุณจะรู้สึกอย่างไร 

ก. กังวลและตื่นตระหนก กลัวขาดทุน
ข. ไม่สบายใจแต่พอเข้าใจได้บ้าง
ค. เข้าใจและยอมรับความผันผวนได้ในระดับหนึ่ง
ง. ไม่กังวลกับโอกาสขาดทุนสูง และหวังกับผลตอบแทนที่อาจจะได้รับสูงขึ้น

9. คุณจะรู้สึกกังวล/รับไม่ได้ เมื่อมูลค่าเงินลงทุนของคุณมีการปรับตัวลดลงในสัดส่วนเท่าใด 

ก. 5% หรือน้อยกว่า
ข. มากกว่า 5-10%
ค. มากกว่า 10-20%
ง. มากกว่า 20%

10. หากปีที่แล้วคุณลงทุนไป 100,000 บาท ปีนี้คุณพบว่า มูลค่าเงินลงทุนลดลงเหลือ 85,000 บาท คุณจะทำอย่างไร

ก. ตกใจและต้องการขายการลงทุนที่เหลือทิ้ง
ข. กังวลใจและจะปรับเปลี่ยนการลงทุนบางส่วนไปในทรัพย์สินที่เสี่ยงน้อยลง
ค. อดทนถือต่อไปได้และรอผลตอบแทนปรับตัวกลับมา
ง. ยังมั่นใจเพราะเข้าใจว่าต้องลงทุนระยะยาวและจะเพิ่มเงินลงทุนในแบบเดิมเพื่อเฉลี่ยต้นทุน

เกณฑ์การคิดคะแนน

คำตอบ: 

ก. = 1 คะแนน
ข. = 2 คะแนน
ค. = 3 คะแนน
ง. = 4 คะแนน

สำหรับข้อ 4 กรณีตอบหลายข้อ ให้เลือกคำตอบที่คะแนนสูงสุด
จากนั้นรวมคะแนนข้อ 1-10 แล้วนำคะแนนมาเทียบกับระดับความเสี่ยงของนักลงทุน ตามตารางด้านล่าง

คะแนน ระดับ ประเภทของนักลงทุน
น้อยกว่า 15 1 เสี่ยงต่ำ
15-21 2 เสี่ยงปานกลางค่อนข้างต่ำ
22-29 3 เสี่ยงปานกลางค่อนข้างสูง
30-36 4 เสี่ยงสูง
37 ขึ้นไป 5 เสี่ยงสูงมาก/เสี่ยงสูงมากอย่างมีนัยสำคัญ

 

อย่างไรก็ตาม ระดับความเสี่ยงของนักลงทุน 5 ระดับ จะแตกต่างจากระดับความเสี่ยงของกองทุน 8 ระดับ ซึ่งมีดังนี้

ระดับ ความเสี่ยงของกองทุน ประเภทของกองทุน
1 เสี่ยงต่ำ กองทุนรวมตลาดเงินที่ลงทุนเฉพาะในประเทศ
2 เสี่ยงปานกลางค่อนข้างต่ำ กองทุนรวมตลาดเงิน
3 เสี่ยงปานกลางค่อนข้างต่ำ กองทุนรวมพันธบัตรรัฐบาล
4 เสี่ยงปานกลางค่อนข้างต่ำ กองทุนรวมตราสารหนี้
5 เสี่ยงปานกลางค่อนข้างสูง กองทุนรวมผสม
6 เสี่ยงสูง กองทุนรวมตราสารทุน
7 เสี่ยงสูง กองทุนรวมหมวดอุตสาหกรรม
8 เสี่ยงสูงมาก กองทุนที่มีการลงทุนในทรัพย์สินทางเลือก


ความเสี่ยงของกองทุน ThaiESG และประกันสะสมทรัพย์

  • สำหรับกองทุน ThaiESG ที่เปิดให้ซื้อขายในปัจจุบัน (ข้อมูล ณ วันที่ 5 ส.ค. 2568) มีความเสี่ยงของกองทุนตั้งแต่ระดับ 3 (เสี่ยงปานกลางค่อนข้างต่ำ) ไปจนถึงระดับ 6 (เสี่ยงสูง)* 
  • ประกันสะสมทรัพย์ ความเสี่ยงต่ำ** เงินต้นไม่หาย และรู้ผลประโยชน์ตอบแทนตามเงื่อนไขกรมธรรม์ล่วงหน้า
     

แนวทางเลือกวิธีลดหย่อนภาษี ตามระดับความเสี่ยงของนักลงทุน

ระดับความเสี่ยงของนักลงทุน = 1

เป็นกลุ่มที่ยอมรับความเสี่ยงในการลงทุนได้ค่อนข้างต่ำ และอาจรู้สึกกังวลใจมาก หากต้องสูญเสียเงินต้น แม้จะเป็นจำนวนที่น้อยมากก็ตาม ดังนั้น การลดหย่อนภาษีด้วยกองทุน ThaiESG จึงอาจไม่ใช่ตัวเลือกที่ดีนัก เนื่องจากความเสี่ยงเริ่มต้นของกองทุน ThaiESG อยู่ในระดับ เสี่ยงปานกลางค่อนข้างต่ำ ที่อาจทำให้สูญเสียเงินต้นอยู่บ้าง

การลดหย่อนภาษีด้วยประกันสะสมทรัพย์ จึงเป็นตัวเลือกที่น่าจะทำให้นักลงทุนกลุ่มนี้สบายใจมากกว่า เนื่องจากไม่ต้องกังวลว่าจะสูญเสียเงินต้น อีกทั้งยังทราบจำนวนเงินคืน และเงินครบกำหนดสัญญาที่ชัดเจนอีกด้วย เพิ่มความมั่นใจให้นักลงทุนความเสี่ยงต่ำได้*** 

ระดับความเสี่ยงของนักลงทุน = 2

เป็นกลุ่มที่ยอมรับความเสี่ยงในการลงทุนได้ปานกลางค่อนข้างต่ำ อาจกังวลใจอยู่บ้าง หากต้องสูญเสียเงินต้นในจำนวนมาก แต่อาจยอมรับการสูญเสียเงินต้นเล็กน้อยได้ ดังนั้น จึงสามารถลดหย่อนภาษีด้วยกองทุน ThaiESG ที่มีความเสี่ยงของกองทุนระดับ 3 และ 4 ได้

อย่างไรก็ตาม หากรายได้ต่อปีไม่สูงมาก ทำให้จำนวนภาษีที่ต้องเสียอยู่ในจำนวนที่น้อยมาก การลดหย่อนภาษีด้วยประกันสะสมทรัพย์อาจเป็นตัวเลือกที่เหมาะกว่าเมื่อเทียบกับกองทุน ThaiESG เนื่องจากผู้ที่มีรายได้ไม่สูง อาจเกิดความกังวลได้ง่ายหากต้องเสียเงินต้น 

ดังนั้น  หากมีเงินอยู่ 1 ก้อนสำหรับซื้อผลิตภัณฑ์ทางการเงินเพื่อลดหย่อนภาษี ควรเลือกลดหย่อนภาษีด้วยประกันสะสมทรัพย์ในสัดส่วนที่สูงกว่ากองทุน ThaiESG 

ระดับความเสี่ยงของนักลงทุน = 3 และ 4

เป็นกลุ่มที่ยอมรับความเสี่ยงในการลงทุนได้สูง และปานกลางค่อนข้างสูง ยอมรับการสูญเสียเงินต้นได้มากขึ้น ดังนั้น จึงสามารถลดหย่อนภาษีด้วยประกันสะสมทรัพย์ และกองทุน ThaiESG ที่มีความเสี่ยงของกองทุนระดับ 3, 4 และ 5 ได้ ขึ้นอยู่กับเป้าหมายทางการเงินของแต่ละคน หากต้องการเพียงแค่ลดหย่อนภาษีอย่างเดียวอาจทำแค่ประกันสะสมทรัพย์หรือซื้อกองทุน ThaiESG ที่มีความเสี่ยงระดับ 3 ก็ได้ แต่หากมีเป้าหมายอื่น ๆ เช่น เก็บเงินสำหรับเป็นค่าเล่าเรียนให้กับลูกในระดับมหาวิทยาลัย ประกันสะสมทรัพย์จะเป็นตัวเลือกที่เหมาะกว่า เป็นต้น

อย่างไรก็ตาม หากมีเงินอยู่ 1 ก้อนสำหรับซื้อผลิตภัณฑ์ทางการเงินเพื่อลดหย่อนภาษี ผู้ที่มีระดับความเสี่ยงของนักลงทุน 3 และมีคะแนนไม่เกิน 25 ควรเลือกลดหย่อนภาษีด้วยประกันสะสมทรัพย์ในสัดส่วนที่เท่ากับหรือสูงกว่ากองทุน ThaiESG เล็กน้อย เนื่องจากอาจยังกังวลกับการสูญเสียเงินต้นอยู่บ้าง ส่วนผู้ที่มีคะแนนสูงกว่า 25 สามารถเลือกลดหย่อนภาษีได้อย่างอิสระมากขึ้น แต่ก็ควรทำประกันสะสมทรัพย์เพื่อกระจายความเสี่ยงไว้บ้าง

ระดับความเสี่ยงของนักลงทุน = 5

เป็นกลุ่มที่ยอมรับความเสี่ยงในการลงทุนได้สูงมาก และเสี่ยงสูงมากอย่างมีนัยสำคัญ ดังนั้น จึงสามารถลดหย่อนภาษีด้วยกองทุน ThaiESG ที่มีความเสี่ยงของกองทุนระดับ 6 ได้ 

กลุ่มนักลงทุนระดับ 5 มักมีรายได้สูงเพียงพอ และบริหารการเงินของตัวเองอย่างเป็นระบบ จึงมักใช้สิทธิลดหย่อนภาษีด้วยประกันสะสมทรัพย์กันอยู่แล้ว แต่หากยังใช้ไม่ครบ แนะนำให้ทำประกันสะสมทรัพย์จนครบจำนวนที่กรมสรรพากรอนุญาต โดยเฉพาะผู้ที่ลงทุนในสินทรัพย์ที่ความเสี่ยงสูงเยอะ ๆ ควรกระจายความเสี่ยงด้วยประกันสะสมทรัพย์ ที่ให้ผลประโยชน์ตอบแทนตามเงื่อนไขกรมธรรม์ที่แน่นอน

 

เสริมความมั่นคง และใช้เงินอย่างคุ้มค่า อย่าลืมลดหย่อนภาษีด้วย
ประกันสะสมทรัพย์โอเชี่ยนไลฟ์ ออมสบาย 10/4 คลิก

  • รับเงินคืน 20% ณ สิ้นปีกรมธรรม์ที่ 1-9
  • ครบกำหนดสัญญารับเงินก้อน 269%
  • รวมผลประโยชน์ ตลอดสัญญาสูงถึง 449%
  • เบี้ยประกันชีวิตสามารถนำไปอ้างอิง ลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 100,000 บาท

 

ข้อควรทราบ : 

*ระดับความเสี่ยงขึ้นอยู่กับนโยบายและสัดส่วนการลงทุนของแต่ละกองทุน ซึ่งอาจเปลี่ยนแปลงได้ตามภาวะตลาด โปรดตรวจสอบ Factsheet/หนังสือชี้ชวนของกองทุนก่อนตัดสินใจ

**ประกันสะสมทรัพย์มีความเสี่ยงต่ำ หากชำระเบี้ยประกันภัยครบตามสัญญา ผู้เอาประกันภัยจะได้รับเงินครบกำหนดสัญญาตามเงื่อนไขกรมธรรม์  กรณีมีการเวนคืนกรมธรรม์ก่อนครบกำหนดสัญญาอาจได้รับเงินคืนต่ำกว่าจำนวนเงินเอาประกันภัย ซึ่งผู้เอาประกันภัยก็จะทราบผลประโยชน์/จำนวนเงินเวนคืนล่วงหน้าได้ตามที่ระบุในกรมธรรม์

***ข้อมูลนี้เป็นคำอธิบายทั่วไป ไม่ใช่คำแนะนำการลงทุนเฉพาะบุคคล ควรพิจารณาความสามารถในการรับความเสี่ยงและเป้าหมายของตน รวมถึงปรึกษาผู้แนะนำการลงทุน/ตัวแทนประกันชีวิตที่ได้รับใบอนุญาตก่อนตัดสินใจ

  • % หมายถึง เปอร์เซ็นต์ของจำนวนเงินเอาประกันภัย
  • การรับประกันภัยเป็นไปตามเงื่อนไขและหลักเกณฑ์ที่บริษัทฯ กำหนด
  • ความคุ้มครองและการจ่ายผลประโยชน์ต่าง ๆ เป็นไปตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้ในกรมธรรม์
  • เบี้ยประกันชีวิตสามารถนำไปอ้างอิงลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาตามหลักเกณฑ์ที่กรมสรรพากรกำหนด
  • ผู้เอาประกันภัยที่ประสงค์จะนำเบี้ยประกันชีวิตไปอ้างอิงลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ต้องแจ้งความประสงค์และยินยอมให้บริษัทฯ นำส่งข้อมูลเบี้ยประกันชีวิตให้กรมสรรพากร
  • โปรดทำความเข้าใจเงื่อนไข ความคุ้มครองก่อนตัดสินใจทำประกันทุกครั้ง

อ้างอิงข้อมูล ณ วันที่ 19 ส.ค. 2568 : 

https://publish.sec.or.th/nrs/5777a2.doc
https://publish.sec.or.th/nrs/7409s.pdf

สิทธิพิเศษที่เกี่ยวข้อง

OCEAN CLUB APP ใช้ชีวิตดี๊ดี กับ OCHI COIN

OCEAN CLUB APP #HEALTHIVERSE

ฟีเจอร์ล่าสุด ให้คุณ TOP FORM ด้านสุขภาพ

QR Code Application
ดาวน์โหลดเลย
OCEAN CLUB APP

บอกข้อมูลสั้นๆ เกี่ยวกับตัวคุณ
เพื่อค้นหาผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสม

ฉันต้องการค้นหาเกี่ยวกับ