เปรียบเทียบประกันสะสมทรัพย์ 4 แบบ 4 สไตล์

เปรียบเทียบ ประกันสะสมทรัพย์
 

เมื่อเข้าสู่ช่วงปลายปี สิ่งที่คนทำงานมีรายได้ไม่ควรมองข้ามคือ การวางแผนลดหย่อนภาษีเพื่อเตรียมยื่นในปีถัดไป โดยหนึ่งในทางเลือกที่ได้รับความนิยมคือ ‘การซื้อประกันสะสมทรัพย์’ เพราะนอกจากจะช่วยสร้างวินัยทางการเงินแล้ว ยังสามารถใช้สิทธิลดหย่อนภาษีได้ด้วย ปี 2568 นี้ บริษัทประกันได้ออกแผนประกันสะสมทรัพย์หลากหลายแบบ ซึ่งแต่ละแบบมีจุดเด่นและเงื่อนไขแตกต่างกันไป ดังนั้นก่อนตัดสินใจจึงควรทำความเข้าใจและเปรียบเทียบประกันสะสมทรัพย์ให้รอบด้าน เพื่อหาตัวเลือกที่เหมาะสมที่สุดกับเป้าหมายทางการเงินและสิทธิประโยชน์ทางภาษีของคุณ

ทำไมควรเปรียบเทียบประกันสะสมทรัพย์ก่อนซื้อ

หลายคนมักเข้าใจว่า ประกันสะสมทรัพย์ทุกแบบให้ผลลัพธ์เหมือนกัน แต่ในความจริงแล้วมีรายละเอียดแตกต่างกัน หากไม่ได้เปรียบเทียบก่อนซื้อ อาจเกิดความเข้าใจผิด เช่น คิดว่าจะได้เงินคืนทุกปี แต่จริง ๆ ต้องรอหลายปี หรือคาดหวังผลประโยชน์สูง แต่สุดท้ายได้รับน้อยกว่าที่คิด การเปรียบเทียบจึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้เราเลือกแผนที่ตรงกับเป้าหมายมากที่สุด

สิ่งที่ควรใช้เปรียบเทียบก่อนซื้อประกันสะสมทรัพย์

1. ระยะเวลาการชำระเบี้ยประกันภัย

ก่อนเลือกซื้อประกันสะสมทรัพย์ ควรพิจารณาเรื่องระยะเวลาการจ่ายเบี้ยเป็นสำคัญ เพราะแต่ละแบบมีเงื่อนไขแตกต่างกัน เช่น

  • แบบจ่ายเบี้ยสั้น จ่ายเพียง 4 ปี แต่คุ้มครองยาวถึง 10 ปี เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการวางแผนการเงินระยะสั้น จ่ายครบเร็ว และให้กรมธรรม์มีผลบังคับต่อเนื่อง
  • แบบจ่ายเบี้ยยาว เช่น จ่าย 15 ปี แต่คุ้มครองนาน 20 ปี เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการสร้างวินัยการออมเงินในรูปแบบประกันชีวิตเพื่อเป้าหมายระยะยาว บางแบบประกัน เบี้ยรายปีอาจต่ำกว่าแบบจ่ายเบี้ยระยะสั้น จึงตอบโจทย์กับคนที่อยากแบ่งเบาภาระการเงิน ไม่ให้กระทบค่าใช้จ่ายด้านอื่น

2. ระยะเวลาคุ้มครอง

หากต้องการได้เงินก้อนไว ๆ อาจซื้อประกันสะสมทรัพย์ที่มีระยะเวลาคุ้มครองสั้น ๆ ได้ แต่ถ้าไม่รีบใช้เงินก้อน และต้องการความคุ้มครองชีวิตด้วย ประกันสะสมทรัพย์ที่มีระยะเวลาคุ้มครองยาว ๆ ก็อาจจะเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมกว่า

นอกจากนั้น หากเป็นประกันสะสมทรัพย์ที่ให้ความคุ้มครองอย่างน้อย 10 ปี นอกจากจะช่วยในการวางแผนการเงินแล้ว ยังสามารถใช้ในการลดหย่อนภาษีได้อีกด้วย

3. เงินคืนระหว่างสัญญา

การให้เงินคืนระหว่างสัญญาของประกันสะสมทรัพย์นั้น มักกำหนดเป็นเปอร์เซ็นต์ (%) ของจำนวนเงินเอาประกันภัย เช่น กำหนดว่าจะให้เงินคืนระหว่างสัญญา 3% ของจำนวนเงินเอาประกันภัย เป็นต้น ซึ่งแต่ละแบบประกันจะกำหนดไม่เท่ากัน นอกจากนั้น ความถี่ในการให้เงินคืนระหว่างสัญญาของแต่ละแบบประกันก็อาจจะแตกต่างกันออกไปด้วย บางแบบอาจให้เงินคืนทุกปี ในขณะที่อีกแบบ ให้เงินคืนทุก ๆ 3 ปี หากเรามีจุดประสงค์ในการนำงินคืนไปจ่ายค่าเบี้ยประกันภัยของปีกรมธรรม์ต่อ ๆ ไป การเลือกประกันสะสมทรัพย์ที่ให้เงินคืนระหว่างสัญญาทุกปี ก็อาจเหมาะสมมากกว่า

นอกจากนั้น ยังมีประกันสะสมทรัพย์ ที่ให้เงินคืนจำนวนมากขึ้นในแต่ละปีด้วย เช่น ปีที่ 1-6 ให้เงินคืน 20% ต่อมาในปีที่ 7-9 ให้เงินคืนสูง 100% เป็นต้น

4. เงินครบกำหนดสัญญา

ถือเป็นผลประโยชน์ก้อนใหญ่ที่หลายคนรอคอย จึงควรพิจารณาว่าตรงกับเป้าหมายการออมของเราหรือไม่ เช่น เพื่อเกษียณ เพื่อเป็นกองทุนการศึกษาให้กับบุตรหลาน เพื่อเป็นเงินดาวน์รถ เป็นต้น

เปรียบเทียบประกันสะสมทรัพย์ 4 แบบ 4 สไตล์ จาก OCEAN LIFE ไทยสมุทรประกันชีวิต

สิ่งที่ใช้เปรียบเทียบ ประกันสะสมทรัพย์
โอเชี่ยนไลฟ์
ออมสบาย 10/4 คลิก
โอเชี่ยนไลฟ์
ซูเปอร์ รีเทิร์น 10/5 คลิก
โอเชี่ยนไลฟ์
เซฟ แอนด์ โพรเทค 88/8 คลิก
เซฟรับทรัพย์
คุ้มกระจาย 15/8 คลิก
ระยะเวลาชำระเบี้ย
ประกันภัย
4 ปี 5 ปี 8 ปี 8 ปี
ระยะเวลาเอาประกันภัย 10 ปี 10 ปี ถึงผู้เอาประกันภัย
อายุครบ 88 ปี
15 ปี
เงินคืนระหว่างสัญญา รับเงิน 20% ทุกปี
ณ สิ้นปี กรมธรรม์ที่ 1-9
รับเงิน 20%
ณ สิ้นปีกรมธรรม์ ที่ 1-6
รับเงิน 100%
ณ สิ้นปีกรมธรรม์ ที่ 7-9
รับเงินคืน 8.8%
ณ สิ้นปีกรมธรรม์ที่ 1
ถึงสิ้นปีกรมธรรม์ที่ผู้เอาประกันภัย อายุครบ 87 ปี
รับเงินคืน 10%
ณ สิ้นปี กรมธรรม์ที่ 1-8
รับเงินคืน 12%
ณ สิ้นปีกรมธรรม์ที่ 9-14
เงินครบกำหนดสัญญา 269% 110% 800% 800%

การเลือกซื้อประกันสะสมทรัพย์ปี 2568 ไม่ควรเลือกจากผลิตภัณฑ์หรือโปรโมชั่นเพียงอย่างเดียว แต่ควรนำเงื่อนไขสำคัญม าวิเคราะห์เปรียบเทียบ เพื่อให้มั่นใจว่าแบบประกันที่เลือกจะตอบโจทย์ทั้งเรื่องการออม การคุ้มครอง และสิทธิประโยชน์ทางภาษี การวางแผนอย่างรอบคอบตั้งแต่ปลายปีนี้ จะทำให้การยื่นภาษีในปี 2569 เป็นไปอย่างมั่นใจ พร้อมทั้งช่วยสร้างอนาคตทางการเงินที่มั่นคงมากขึ้นด้วย

ข้อควรทราบ : 

  • % หมายถึง เปอร์เซ็นต์ของจำนวนเงินเอาประกันภัย
  • การรับประกันภัยเป็นไปตามเงื่อนไขและหลักเกณฑ์ที่บริษัทฯ กำหนด
  • ความคุ้มครองและการจ่ายผลประโยชน์ต่าง ๆ เป็นไปตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้ในกรมธรรม์
  • เบี้ยประกันชีวิตสามารถนำไปอ้างอิงลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาตามหลักเกณฑ์ที่กรมสรรพากรกำหนด
  • ผู้เอาประกันภัยที่ประสงค์จะนำเบี้ยประกันชีวิตไปอ้างอิงลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ต้องแจ้งความประสงค์และยินยอมให้บริษัทฯ นำส่งข้อมูลเบี้ยประกันชีวิตให้กรมสรรพากร
  • โปรดทำความเข้าใจเงื่อนไข ความคุ้มครองก่อนตัดสินใจทำประกันทุกครั้ง

สิทธิพิเศษที่เกี่ยวข้อง

OCEAN CLUB APP ใช้ชีวิตดี๊ดี กับ OCHI COIN

OCEAN CLUB APP #HEALTHIVERSE

ฟีเจอร์ล่าสุด ให้คุณ TOP FORM ด้านสุขภาพ

QR Code Application
ดาวน์โหลดเลย
OCEAN CLUB APP

บอกข้อมูลสั้นๆ เกี่ยวกับตัวคุณ
เพื่อค้นหาผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสม

23 ตุลาคม 2568 ประกาศวันหยุดวันปิยมหาราช
ฉันต้องการค้นหาเกี่ยวกับ