
ในยุคที่ค่าครองชีพเพิ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ “มนุษย์เงินเดือน” หลายคนเริ่มตระหนักถึงความสำคัญของการวางแผนชีวิตหลังเกษียณ เพราะรายได้จากงานประจำจะหยุดลงทันทีเมื่อเลิกทำงาน แต่รายจ่ายยังคงอยู่ “ประกันบำนาญ” จึงกลายเป็นอีกหนึ่งเครื่องมือสำคัญในการสร้างรายได้ประจำหลังเกษียณอย่างมั่นคง ช่วยให้มีเงินใช้สม่ำเสมอทุกปี ลดภาระพึ่งพาครอบครัว และยังมีสิทธิประโยชน์ทางภาษีในช่วงเวลาที่ชำระเบี้ยประกันภัยอีกด้วย
ประกันบำนาญ คืออะไร
ประกันบำนาญ คือประกันชีวิตที่ออกแบบมาเพื่อให้ผู้เอาประกันภัยได้รับ “เงินบำนาญรายงวด” โดยอาจเป็นรายปี รายเดือน หรือแบบอื่น ๆ ตามที่บริษัทประกันแต่ละแห่งกำหนด ซึ่งบริษัทประกันจะจ่ายให้ หลังผู้เอาประกันภัยมีอายุครบตามที่ระบุในกรมธรรม์ (เช่น 55 หรือ 60 ปี) ที่มักตรงกับช่วงที่เกษียณอายุพอดี ไปจนถึงอายุสูงสุดตามเงื่อนไขกรมธรรม์
นอกจากนี้ ประกันบำนาญยังมี ผลประโยชน์ด้านการลดหย่อนภาษี ทำให้เป็นตัวเลือกยอดนิยมของคนทำงานที่ต้องการทั้งความมั่นคงในอนาคตและสิทธิประโยชน์ทางภาษีในปัจจุบัน
เทคนิคการเลือกประกันบำนาญให้เหมาะกับเรา
สำหรับบทความนี้ จะเสนอ 3 เทคนิคด้วยกัน ได้แก่ การพิจารณาจากระยะเวลาการชำระเบี้ยประกันภัย, งวดการชำระเบี้ยประกันภัย และจำนวนเงินบำนาญที่ต้องการเมื่อเกษียณอายุ โดยสามารถใช้ทั้ง 3 เทคนิคพร้อม ๆ กันได้
เทคนิคที่ 1 พิจารณาจากระยะเวลาชำระเบี้ยประกันภัย
1. แบบจ่ายเบี้ยประกันภัยสั้น เช่น 5–10 ปี หรือแบบจ่ายครั้งเดียว
เหมาะสำหรับ
- ผู้ที่ต้องการให้ภาระค่าเบี้ยประกันภัยหมดลงโดยเร็ว
- ผู้ที่มีรายได้สูงในระยะเวลาสั้น ๆ เช่น ขายทรัพย์สินได้ ได้เงินมรดก เป็นต้น
- ผู้ที่สามารถจ่ายเบี้ยประกันภัยรายปีในราคาที่อาจสูงกว่าประกันบำนาญแบบจ่ายเบี้ยประกันภัยยาว ๆ ได้ เช่น ผู้เอาประกันภัยเพศหญิง อายุ 39 ปี เปรียบเทียบประกันบำนาญรีไทร์ เรดดี้ 85/5 กับ รีไทร์ เรดดี้ 85/55 หากเลือกจำนวนเงินเอาประกันภัยเท่ากันที่ 100,000 บาท เบี้ยประกันภัยรายปีของรีไทร์ เรดดี้ 85/5 จะสูงกว่ารีไทร์ เรดดี้ 85/55 มาก
| ประเภทของประกันบำนาญ | รีไทร์ เรดดี้ 85/55 | รีไทร์ เรดดี้ 85/5 |
| จำนวนเงินเอาประกันภัย | 100,000 บาท | |
| ค่าเบี้ยประกันภัย | 16,480 บาท | 37,900 บาท |
| ระยะเวลาการชำระเบี้ยประกันภัย | 16 ปี | 5 ปี |
2. แบบจ่ายเบี้ยประกันภัยยาว เช่น ชำระเบี้ยประกันภัยจนถึงอายุ 55 หรือ 60 ปี
เหมาะสำหรับ
- ผู้ที่ต้องการกระจายภาระ เนื่องจากเบี้ยประกันภัยต่องวดมักน้อยกว่าประกันบำนาญแบบจ่ายเบี้ยประกันภัยระยะสั้น ๆ ช่วยให้ไม่กระทบสภาพคล่องรายเดือน
- ผู้ที่ต้องการออม*แบบค่อยเป็นค่อยไปหรือรายได้ไม่แน่นอน
- ผู้ที่ต้องการลดหย่อนภาษียาว ๆ หลายปีต่อกัน ไม่ต้องวางแผนภาษีใหม่บ่อย ๆ เช่น ผู้เอาประกันภัย เพศหญิง อายุ 39 ปี เปรียบเทียบประกันบำนาญรีไทร์ เรดดี้ 85/5 กับรีไทร์ เรดดี้ 85/55 จะสามารถนำเบี้ยประกันภัยของรีไทร์ เรดดี้ 85/5 ไปลดหย่อนภาษีได้เพียง 5 ปี หากเป็นรีไทร์ เรดดี้ 85/55 จะนำเบี้ยประกันภัยไปลดหย่อนภาษีได้ถึง 16 ปี เป็นต้น
เทคนิคที่ 2 พิจารณาจากงวดการชำระเบี้ยประกันภัย
เลือกงวดการชำระเบี้ยประกันภัยที่ไม่กระทบสภาพคล่องของตนเอง เช่น รายเดือน ราย 3 เดือน หรือรายปี เป็นต้น ตัวอย่างค่าเบี้ยประกันภัยของประกันเซฟเกษียณ มีบำนาญ 90/5 กรณีที่ผู้เอาประกันภัยเพศหญิง อายุ 39 ปี ตามงวดชำระเบี้ยประกันภัยแบบต่าง ๆ
| งวดการชำระเบี้ยประกันภัย | เซฟเกษียณ มีบำนาญ 90/5 (จำนวนเงินเอาประกันภัย 300,000 บาท) |
| รายเดือน | 10,362 |
| ราย 3 เดือน | 31,089 |
| ราย 6 เดือน | 59,874 |
| รายปี | 115,140 |
เทคนิคที่ 3 พิจารณาจำนวนเงินบำนาญที่ต้องการเมื่อเกษียณอายุ
พิจารณาจากรายได้ที่ต้องการใช้หลังเกษียณ โดยทั่วไป ควรตั้งเป้าเงินบำนาญให้เพียงพอต่อค่าใช้จ่าย โดยอาจกำหนดให้มีจำนวนเท่ากับ 70% ของรายได้ต่อเดือนในปัจจุบัน เพื่อรักษามาตรฐานชีวิตได้ใกล้เคียงเดิม เช่น
- ผู้หญิงอายุ 39 ปี มีรายได้ 35,000 บาท/เดือน
- เป้าหมายรายได้หลังเกษียณ = 35,000 × 70% = 24,500 บาท/เดือน
- มีรายได้ที่คาดว่าจะได้รับหลังเกษียณ ได้แก่ เงินบำนาญจากการส่งเงินสมทบประกันสังคมมาตรา 33 เป็นเวลา 25 ปี ได้รับ 8,050 บาท/เดือน + ค่าปล่อยให้เช่าคอนโด 9,000 บาท/เดือน + รายได้จากการขายงานฝีมือเฉลี่ย 2,000 บาท/เดือน รวมรายได้ที่จะได้รับ 19,050 บาท/เดือน
- ช่องว่างรายได้เพื่อให้เป็นไปตามเป้าหมายหลังเกษียณ: 24,500 - 19,050 = 5,450 บาท
- หากทำประกันบำนาญรีไทร์ เรดดี้ 85/60 สามารถเลือกจำนวนเงินเอาประกันภัย 500,000 บาท ซึ่งจะทำให้ได้เงินบำนาญปีละ 75,000 บาท คิดเป็นรายเดือนเท่ากับ 6,250 บาท เป็นต้น
ประกันบำนาญไม่เพียงช่วยสร้างรายได้ประจำหลังเกษียณ แต่ยังเป็นเครื่องมือวางแผนการเงินระยะยาวที่ตอบโจทย์มนุษย์เงินเดือนในยุคนี้ได้อย่างแท้จริง การเลือกประกันบำนาญจึงควรดูทั้งระยะเวลาชำระเบี้ยประกันภัย งวดการจ่าย และจำนวนเงินบำนาญที่ต้องการ เพื่อให้เหมาะกับความสามารถทางการเงินของตนเอง เมื่อวางแผนได้ดีตั้งแต่วันนี้ ชีวิตหลังเกษียณก็จะมั่นคงและมีความสุขอย่างที่ตั้งใจไว้
ข้อควรทราบ :
- *เป็นการออมเงินในรูปแบบประกันชีวิต
- การรับประกันภัยเป็นไปตามเงื่อนไขและหลักเกณฑ์ที่บริษัทฯ กำหนด
- ความคุ้มครองและการจ่ายผลประโยชน์ต่าง ๆ เป็นไปตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้ในกรมธรรม์
- เบี้ยประกันชีวิต สามารถนำไปอ้างอิงลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาตามหลักเกณฑ์ที่กรมสรรพากรกำหนด
- ผู้เอาประกันภัยที่ประสงค์จะนำเบี้ยประกันชีวิต ไปอ้างอิงลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ต้องแจ้งความประสงค์และยินยอมให้บริษัทฯ นำส่งข้อมูลเบี้ยประกันชีวิต ให้กรมสรรพากร
- การนำส่งเบี้ยประกันภัยเป็นหน้าที่ของผู้เอาประกันภัย การที่ที่ปรึกษาประกันชีวิต (ตัวแทนประกันชีวิต) มาเก็บเบี้ยประกันภัยเป็นการให้บริการเท่านั้น
- ข้อมูลในเอกสารนี้เป็นเพียงข้อมูลเบื้องต้นของผลิตภัณฑ์ประกันภัย ผู้ขอเอาประกันภัย/ผู้เอาประกันภัยควรศึกษาข้อมูลเพิ่มเติม และทำความเข้าใจในรายละเอียดเงื่อนไขความคุ้มครอง ผลประโยชน์ และข้อยกเว้น ก่อนตัดสินใจทำประกันภัยทุกครั้ง เมื่อได้รับกรมธรรม์แล้วโปรดศึกษาเพิ่มเติม