
สำหรับคนส่วนใหญ่แล้ว เมื่อเริ่มทำงานและมีรายได้เป็นของตัวเอง สิ่งแรกที่นึกถึงมักจะเป็นการซื้อประกันคุ้มครองตลอดชีพพร้อมประกันสุขภาพ เพื่อให้ครอบคลุมทั้งในแง่ความคุ้มครองชีวิตและค่ารักษาพยาบาลเมื่อต้องรักษาตัวเป็นผู้ป่วยใน ประกันลักษณะนี้จึงกลายเป็น “กรมธรรม์ฉบับแรก ๆ” ที่ใครหลายคนเลือกติดตัวไว้ตั้งแต่อายุประมาณ 30 ต้น ๆ
แต่สิ่งหนึ่งที่คนมักมองข้าม คือ ประกันโรคร้าย อาจเพราะรู้สึกว่าตัวเองแข็งแรงดี โอกาสเจ็บป่วยร้ายแรงอย่างโรคมะเร็ง โรคหัวใจ หรือโรคหลอดเลือดสมอง ดูเหมือนจะยังห่างไกล ทั้งที่โรคเหล่านี้เป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับต้น ๆ ของคนไทยเลยทีเดียว ดังนั้น OCEAN LIFE ไทยสมุทร จึงอยากชวนทุกคนมารู้จักกับ 3 ข้อดีของการซื้อประกันสุขภาพควบประกันโรคร้าย ในบทความนี้ ติดตามกันได้เลย
1. ใช้สัญญาหลักร่วมกัน ไม่ต้องจ่ายค่าเบี้ยประกันภัยซ้ำซ้อน
จุดเด่นของการซื้อประกันสุขภาพควบประกันโรคร้ายก็คือ เราสามารถใช้ “สัญญาหลัก” ร่วมกันได้ ไม่ว่าจะเป็นประกันคุ้มครองตลอดชีพ หรือประกันสะสมทรัพย์ระยะยาวก็ตาม ในกรณีที่ต้องการทำประกันคุ้มครองตลอดชีพหรือประกันสะสมทรัพย์ระยะยาวควบประกันสุขภาพเป็นฉบับแรก คุณสามารถซื้อประกันโรคร้ายเพิ่มเติมอีกอย่างได้เลย จะทำให้ได้รับความคุ้มครองที่ครอบคลุมตั้งแต่เริ่มทำประกัน
ในกรณีที่คุณมีสัญญาหลักควบประกันสุขภาพอยู่ในมือแล้ว แต่ยังไม่มีประกันโรคร้ายแรงก็สามารถติดต่อบริษัทประกันเพื่อทำสัญญาเพิ่มเติมคุ้มครองโรคร้ายแรงได้เลย โดยไม่ต้องซื้อประกันคุ้มครองตลอดชีพ หรือประกันสะสมทรัพย์ระยะยาวเป็นสัญญาหลักอีก
ข้อดีตรงนี้ช่วยลดภาระค่าเบี้ยอย่างเห็นได้ชัด เพราะการทำประกันแต่ละฉบับจะต้องเสียค่าเบี้ยแยกกัน หากมีกรมธรรม์หลายเล่มก็ย่อมเป็นค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้น แต่การซื้อแบบ “ควบกัน” ผ่านสัญญาหลักเพียงฉบับเดียว จะทำให้ค่าเบี้ยรวมประหยัดลงกว่า และยังสะดวกต่อการจัดการ ไม่ต้องจ่ายค่าเบี้ยทีละหลายเล่มให้วุ่นวาย
2. คุ้มครองการเจ็บป่วยหลายระดับ
การมีแค่ประกันสุขภาพเพียงอย่างเดียวอาจยังไม่ครอบคลุมเพียงพอ เพราะแม้จะช่วยจ่ายค่ารักษาพยาบาลในกรณีเจ็บป่วยทั่วไปหรือต้องรักษาตัวในโรงพยาบาล แต่หากคุณตรวจพบว่าเป็นโรคร้ายแรง ค่ารักษาพยาบาลอาจพุ่งสูงเกินกว่าที่ประกันสุขภาพเพียงอย่างเดียวจะครอบคลุมได้
ในทางกลับกัน หากคุณซื้อประกันสุขภาพควบกับประกันโรคร้าย คุณจะได้รับความคุ้มครองแบบสามต่อ
- ต่อที่ 1 เมื่อคุณเจ็บป่วยทั่วไป และแพทย์ระบุให้คุณต้องนอนพักรักษาตัวในโรงพยาบาล คุณสามารถใช้ประกันสุขภาพเป็นตัวช่วยแบ่งเบาค่าห้องพัก ค่ายา ค่าบริการทางการแพทย์ และค่ารักษาพยาบาลต่าง ๆ ตามที่ระบุไว้ในกรมธรรม์
- ต่อที่ 2 หากตรวจพบโรคร้ายแรง และต้องมีการผ่าตัด หรือหัตถการอื่น ๆ ที่คุณจำเป็นต้องนอนพักรักษาตัวในโรงพยาบาล คุณสามารถใช้ประกันสุขภาพเป็นตัวช่วยในลักษณะเดียวกันกับต่อที่ 1 ได้
- ต่อที่ 3 หากตรวจพบโรคร้ายแรง นอกจากประกันสุขภาพจะช่วยแบ่งเบาค่ารักษาพยาบาลระหว่างที่เป็นผู้ป่วยใน ประกันโรคร้ายจะจ่าย “เงินก้อน” ให้คุณอีกด้วย ซึ่งเงินก้อนนี้สามารถนำไปใช้ได้อย่างอิสระ ไม่ว่าจะเป็นการจ่ายค่ารักษาเพิ่มเติมที่นอกเหนือจากวงเงินประกันสุขภาพ หรือแม้แต่ใช้จ่ายในชีวิตประจำวันขณะที่ไม่สามารถทำงานได้เต็มที่
ดังนั้น การมีความคุ้มครองทั้งสองแบบควบคู่กัน จะช่วยปิดช่องว่างของความเสี่ยงได้ครบถ้วนยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะป่วยเล็ก ป่วยใหญ่ หรือเจ็บป่วยระดับร้ายแรง คุณก็จะมีทั้งค่ารักษาและเงินก้อนสำรองเพื่อรับมือกับความเจ็บป่วยที่ไม่คาดฝันได้
3. เคลมง่าย เพราะทำผ่านบริษัทประกันเดียวกัน
การทำประกันสุขภาพควบกับประกันโรคร้ายผ่านสัญญาหลักเดียวกันภายใต้บริษัทประกันเดียว ข้อดีที่เห็นได้ชัดคือ ความสะดวกในการเคลม ไม่ว่าจะเคลมค่ารักษาพยาบาลจากประกันสุขภาพ หรือขอรับเงินก้อนจากประกันโรคร้าย ทุกอย่างสามารถทำได้ในช่องทางเดียว เอกสารไม่ซับซ้อน ไม่ต้องทำสำเนาหลายฉบับ เพราะไม่ต้องติดต่อขอเคลมหลายบริษัท
นอกจากนี้ การทำประกันสุขภาพควบกับประกันโรคร้ายกับบริษัทเดียวกัน ยังช่วยให้บริษัทประกันเข้าถึงข้อมูลสุขภาพและประวัติการเคลมของคุณได้ครบถ้วน ส่งผลให้การอนุมัติหรือการพิจารณาเรื่องต่าง ๆ รวดเร็วขึ้น ไม่ต้องเสียเวลาอธิบายซ้ำ ๆ หรือห่วงว่าผลการพิจารณาจากแต่ละบริษัทอาจไม่ตรงกัน
สำหรับคนที่กำลังซื้อประกันเป็นฉบับแรก เมื่อทราบข้อดีของการซื้อประกันสุขภาพควบประกันโรคร้ายแล้ว ควรพิจารณาซื้อประกันให้ครอบคลุม เพื่อให้ได้ความคุ้มครองครบถ้วน แต่หากซื้อไปเรียบร้อยแล้ว ลองทบทวนกรมธรรม์ของคุณอีกสักรอบ หากยังขาดความคุ้มครองอยู่ ไม่ว่าจะเป็นความคุ้มครองด้านค่ารักษาพยาบาล หรือเงินก้อนสำหรับรับมือกับโรคร้าย หรือทั้ง 2 อย่าง อย่าลืมเติมความคุ้มครองให้ครบ เพื่อลดความกังวลในอนาคต
สนใจทำประกันสุขภาพควบประกันโรคร้าย คลิก