การเลือกซื้อประกันชีวิตไม่ใช่แค่การเปรียบเทียบเบี้ยประกันภัยหรือผลประโยชน์เท่านั้น แต่ยังต้องทำความเข้าใจในเงื่อนไขและรายละเอียดต่าง ๆ ที่ระบุไว้ในกรมธรรม์ด้วย รวมถึงคำศัพท์เฉพาะที่เกี่ยวข้องกับระยะเวลา เช่น “ระยะเวลาคุ้มครอง” หรือ “ระยะเวลาผ่อนผันการชำระเบี้ย” อาจฟังดูไม่ซับซ้อน แต่หากเข้าใจผิด ก็อาจทำให้เกิดปัญหาได้ เช่น อาจเข้าใจไปว่าประกันชีวิตให้ความคุ้มครอง นาน 85 ปี แต่จริง ๆ แล้ว คุ้มครองถึงอายุ 85 ปีเท่านั้น เป็นต้น
เพื่อไม่ให้คุณพลาดเงื่อนไขและรายละเอียดต่างๆ ที่สำคัญ ดังนั้น OCEAN LIFE ไทยสมุทร จึงอยากชวนทุกคนมาทำความเข้าใจ 5 คำศัพท์ประกันชีวิต ที่เกี่ยวข้องกับระยะเวลา ที่ควรรู้ก่อนตัดสินใจซื้อประกัน ติดตามอ่านกันได้เลย
1. ระยะเวลาคุ้มครอง
คือ ช่วงเวลาที่กรมธรรม์ประกันชีวิตมีผลบังคับ ซึ่งบริษัทประกันจะให้ความคุ้มครองแก่ผู้เอาประกันภัย หากเกิดเหตุการณ์ที่อยู่ในขอบเขตความคุ้มครอง เช่น เสียชีวิต ทุพพลภาพ บาดเจ็บ หรือเจ็บป่วย ตามเงื่อนไขที่ระบุไว้ในกรมธรรม์ โดยระยะเวลาคุ้มครองจะระบุชัดเจนในสัญญา เช่น ประกันโอเชี่ยนไลฟ์ ออมสบาย 10/4 มีระยะเวลาคุ้มครอง 10 ปี นับจากวันที่เริ่มกรมธรรม์, ประกันรีไทร์ เรดดี้ 85/60 มีระยะเวลาคุ้มครองนับจากวันที่เริ่มกรมธรรม์ จนถึงวันที่ผู้เอาประกันภัยอายุครบ 85 ปี เป็นต้น
2. ระยะเวลาชำระเบี้ยประกันภัย
หมายถึง ระยะเวลาที่ผู้เอาประกันภัยต้องชำระเบี้ยประกันภัยตามที่ระบุไว้ในกรมธรรม์ เช่น ชำระเบี้ยประกันภัยรายปีเป็นเวลา 10 ปี หรือรายเดือนนาน 20 ปี ทั้งนี้ ส่วนใหญ่แล้วระยะเวลาชำระเบี้ยประกันภัยมักสั้นกว่าระยะเวลาคุ้มครอง เช่น จ่ายเบี้ย 4 ปี แต่ได้รับความคุ้มครองนานถึง 10 ปี เป็นต้น
3. ระยะเวลาที่ไม่คุ้มครอง (Waiting Period)
คือ ช่วงเวลาหลังจากกรมธรรม์เริ่มมีผลบังคับ แต่บริษัทประกันยังไม่ให้ความคุ้มครอง ซึ่งประกันชีวิตแต่ละประเภทจะมีระยะเวลาที่ไม่คุ้มครองแตกต่างกัน
ตัวอย่างเช่น
▶ ประกันสุขภาพ
- มีระยะเวลาที่ไม่คุ้มครอง 30 วัน สำหรับการป่วยใด ๆ นับแต่วันเริ่มมีผลคุ้มครองตามสัญญา
- มีระยะเวลาที่ไม่คุ้มครอง 120 วัน นับแต่วันเริ่มมีผลคุ้มครองตามสัญญาสำหรับโรคบางชนิด เช่น เนื้องอก ถุงน้ำ หรือมะเร็งทุกชนิด การตัดทอนซิล เส้นเลือดขอดที่ขา ริดสีดวงทวาร เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ เป็นต้น
▶ ประกันโรคร้ายแรง
มีระยะเวลาที่ไม่คุ้มครอง 90 วัน นับแต่วันเริ่มมีผลคุ้มครองตามกรมธรรม์ สำหรับการป่วยด้วยโรคร้ายแรงหรือความผิดปกติตามที่ระบุไว้ในกรมธรรม์ ซึ่งแพทย์ยืนยันและมีหลักฐานชัดเจน
▶ ประกันสะสมทรัพย์และประกันอุบัติเหตุ
โดยส่วนใหญ่ไม่มีระยะเวลาที่ไม่คุ้มครอง
4. ระยะเวลาผ่อนผันชำระเบี้ยประกันภัย (Grace Period)
เป็นช่วงเวลาผ่อนผันที่บริษัทให้เวลาผู้เอาประกันภัยสามารถชำระเบี้ยประกันภัยล่าช้าได้ ช่วงเวลานี้มักอยู่ที่ 31 วันนับแต่วันครบกำหนดชำระเบี้ยประกันภัย โดยหากมีเหตุไม่คาดฝันเกิดขึ้นในช่วงนี้ เช่น ผู้เอาประกันภัยเสียชีวิต แม้ยังไม่ได้จ่ายเบี้ยประกันภัยงวดล่าสุด บริษัทก็จะยังคงจ่ายค่าสินไหมตามปกติ โดยหักค่าเบี้ยประกันภัยที่ค้างชำระไว้
5. ระยะเวลาในการขอยกเลิกกรมธรรม์ (Free Look Period)
คือ ระยะเวลาที่ผู้เอาประกันภัยสามารถพิจารณารายละเอียดในกรมธรรม์ที่ได้รับ ว่ามีผลประโยชน์ หรือเงื่อนไขกรมธรรม์ ตรงกับเจตนาและความต้องการในขณะทำประกันหรือไม่ หรือหากผู้เอาประกันภัยประสงค์จะยกเลิกกรมธรรม์ด้วยเหตุผลใด ๆ ก็ตาม ผู้เอาประกันภัยก็มีสิทธิขอยกเลิกกรมธรรม์
เมื่อได้รับกรมธรรม์แล้ว หากต้องการขอยกเลิกกรมธรรม์ ผู้เอาประกันภัย สามารถดำเนินการได้ ในระยะเวลาที่กำหนด ดังนี้
- ซื้อผ่านตัวแทนประกันชีวิตหรือนายหน้าประกันชีวิต : มีสิทธิ์ในการขอยกเลิกกรมธรรม์ได้ภายใน 15 วัน นับแต่วันที่ได้รับกรมธรรม์
- ซื้อผ่านโทรศัพท์หรือช่องทางออนไลน์: มีสิทธิ์ในการขอยกเลิกกรมธรรม์ได้ภายใน 30 วัน นับแต่วันที่ได้รับกรมธรรม์
โดยการขอยกเลิกกรมธรรม์ ผู้เอาประกันภัยต้องส่งคืนกรมธรรม์ให้แก่บริษัทด้วย เว้นแต่ บริษัทได้ออกกรมธรรม์ให้แก่ผู้เอาประกันภัยโดยใช้วิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ เช่น ส่งผ่านอีเมล หรือแอปพลิเคชัน LINE เป็นต้น ผู้เอาประกันภัยไม่ต้องส่งคืนกรมธรรม์ให้แก่บริษัท
เมื่อมีการแจ้งความประสงค์ขอยกเลิกกรมธรรม์แล้ว บริษัทจะคืนเบี้ยประกันภัยที่ได้รับมาให้กับผู้เอาประกันภัยตามเงื่อนไขกรมธรรม์
นอกจากคำศัพท์เกี่ยวกับระยะเวลาแล้ว ยังมีคำศัพท์เกี่ยวกับประกันชีวิตที่น่าสนใจอีกหลายคำ อ่านที่บทความด้านล่างได้เลย
ศัพท์ประกันน่ารู้ 1: ห้องพักเดี่ยวมาตรฐานคืออะไร
ศัพท์ประกันน่ารู้ 2: เบี้ยประกันภัย ทุนประกันภัย อายุรับประกันภัย คืออะไร
หากคุณต้องการเลือกประกันชีวิตที่เหมาะสมกับเป้าหมายของคุณ สามารถดูรายละเอียดและปรึกษาผู้เชี่ยวชาญได้ที่ คลิกเพื่อติดต่อเรา
ข้อควรทราบ : ความคุ้มครอง และการจ่ายผลประโยชน์ต่าง ๆ เป็นไปตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้ในกรมธรรม์
