
หลายคนก่อนจะตัดสินใจทำ “ประกันโรคร้ายแรง” คงมีคำถามว่าควรทำประกันโรคร้ายแรง ที่ไหนดี? ทำที่ไหนถึงจะคุ้ม ก่อนอื่นอยากให้คุณพิจารณาถึงความคุ้มครองของแบบประกันที่สนใจว่าคุ้มครองอะไรบ้าง เพราะประกันแต่ละแบบแต่ละบริษัทให้ความคุ้มครองต่างกัน บางแบบจ่ายเฉพาะโรคร้ายแรงยอดฮิต เช่น มะเร็ง หัวใจ หรือหลอดเลือดสมอง ขณะที่บางแบบให้ความคุ้มครองครอบคลุมโรคได้มากกว่า 100 โรค นอกจากนี้อยากให้พิจารณาเงินเอาประกันภัย หรือเงินก้อนที่จะได้รับ และเงื่อนไขการเคลมหากตรวจพบโรคแล้ว บริษัทประกันจะจ่ายเงินสินไหมให้จำนวนเท่าไร หรือยังคุ้มครองโรคอื่น ๆ ต่อหรือไม่ การเลือกประกันโรคร้ายแรง ต้องดูรายละเอียดให้รอบด้านก่อนตัดสินใจ เพื่อให้ได้แบบประกันที่ตรงกับความต้องการของเรามากที่สุด
เกณฑ์ที่ใช้เลือก ประกันโรคร้ายแรง ที่ไหนดี
1. จำนวนโรคที่ให้ความคุ้มครอง
เมื่อซื้อประกันโรคร้ายแรง หลาย ๆ คนมักให้ความสำคัญกับโรคร้ายแรงที่ตัวเองรู้จักอย่างโรคมะเร็ง โรคหัวใจ โรคไต เท่านั้น แต่จริง ๆ แล้ว ยังมีอีกหลายโรคที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพอย่างมาก และมีค่าใช้จ่ายในการรักษาโรคค่อนข้างสูง ดังนั้น “จำนวนโรค” ที่ประกันโรคร้ายแรงให้ความคุ้มครอง จึงเป็นสิ่งที่ควรพิจารณาให้ดีก่อนตัดสินใจทำประกัน
ปัจจุบัน มีประกันโรคร้ายแรงที่ให้ความคุ้มครองครอบคลุมตั้งแต่ 20 โรคไปจนถึงกว่า 100 โรค นอกจากโรคที่ทุกคนกลัวแล้ว ยังมีโรคอื่น ๆ ที่อาจคาดไม่ถึง เช่น โรคถุงน้ำในไต โรคกล้ามเนื้อเสื่อม โรคลำไส้อักเสบเป็นแผลรุนแรง เป็นต้น ยิ่งเลือกประกันที่ให้ความคุ้มครองครอบคลุมหลายกลุ่มโรค ก็ยิ่งลดความเสี่ยงเมื่อเราพบเจอโรคที่ไม่อยู่ในกลุ่มโรคร้ายแรงยอดฮิต
2. เปอร์เซ็นต์ของจำนวนเงินเอาประกันภัยที่จ่ายเมื่อพบโรคร้ายแรงประกันโรคร้ายแรงแต่ละแบบจะจ่ายเงินสินไหมเป็นเปอร์เซ็นต์ของจำนวนเงินเอาประกันภัย เช่น 100% หรือบางแบบอาจสูงกว่านั้น ขึ้นอยู่กับระยะของโรคและเงื่อนไขความคุ้มครองที่ระบุไว้ในกรมธรรม์ ยิ่งเปอร์เซ็นต์สูง ผู้เอาประกันก็ยิ่งมีเงินก้อนสำรองไว้ใช้รักษาและพักฟื้น โดยไม่กระทบต่อรายได้ประจำหรือค่าใช้จ่ายของครอบครัว
3. ความคุ้มครองต่อเนื่อง
อีกสิ่งที่ไม่ควรมองข้ามคือ “ความคุ้มครองต่อเนื่อง” หมายถึง หลังจากเคยได้รับเงินสินไหมไปแล้ว เมื่อตรวจพบเจอโรคร้ายแรงโรคใดโรคหนึ่ง แต่ยังสามารถรับความคุ้มครองจากโรคร้ายแรงอื่นได้อีก โดยบางแบบ ผู้เอาประกันภัยไม่ต้องจ่ายเบี้ยประกันภัยเพิ่ม ซึ่งช่วยลดความกังวลหากตรวจพบโรคอื่นในอนาคต
แนะนำประกันโรคร้ายแรงที่ให้ความคุ้มครองสูงสุด
โอเชี่ยนไลฟ์ ซูเปอร์ ซีไอ 120 จาก OCEAN LIFE ไทยสมุทรประกันชีวิต
- คุ้มครองสูงถึง 120 โรคร้ายแรง
ครอบคลุมโรคร้ายแรงหลากหลาย ทั้งโรคระยะเริ่มต้นและระยะรุนแรง 6 กลุ่มโรค รวมแล้ว 120 โรคร้ายแรง
- ครอบคลุมโรคร้ายทุกระยะรวมสูงสุด 700%
บริษัทจะจ่ายผลประโยชน์สูงสุดต่อกลุ่มโรคร้ายแรงไม่เกิน 100% รวมผลประโยชน์สูงสุดไม่เกิน 600% และคุ้มครองเพิ่มเติมสำหรับกลุ่มความคุ้มครองพิเศษของโรคมะเร็งระยะลุกลามที่พบบ่อยในเพศชายและเพศหญิง
- มีความคุ้มครองต่อเนื่อง โดยไม่ต้องจ่ายเบี้ยประกันภัยต่อ
เมื่อเคลมครบ 100% ของจำนวนเงินเอาประกันภัย ในกลุ่มโรคใดโรคหนึ่งแล้ว ความคุ้มครองของประกันโรคร้ายแรง โอเชี่ยนไลฟ์ ซูเปอร์ ซีไอ 120 จะยังไม่สิ้นสุด หากตรวจพบโรคร้ายแรงในกลุ่มโรคอื่น ผู้เอาประกันภัยจะสามารถขอรับสินไหมตามที่ระบุไว้ในกรมธรรม์ได้อีก อีกทั้งยังไม่ต้องจ่ายค่าเบี้ยประกันภัยอีกต่อไป
การเลือกประกันโรคร้ายแรงไม่ใช่ดูแค่ราคาหรือชื่อโรคที่คุ้มครอง แต่ต้องพิจารณาจำนวนโรค ความครอบคลุมของการจ่ายสินไหม เบี้ยประกันภัยและความคุ้มครองต่อเนื่อง เพื่อให้ได้แผนความคุ้มครองที่มอบความอุ่นใจในชีวิตได้จริงในวันที่เจ็บป่วย และ โอเชี่ยนไลฟ์ ซูเปอร์ ซีไอ 120 คือหนึ่งในประกันโรคร้ายแรงที่ตอบโจทย์ ที่ให้ความคุ้มครองสูงที่สุดในปัจจุบัน
สนใจประกันโรคร้ายแรง โอเชี่ยนไลฟ์ ซูเปอร์ ซีไอ 120 คลิก
ข้อควรทราบ :
- % หมายถึง เปอร์เซ็นต์ของจำนวนเงินเอาประกันภัย
- การรับประกันภัยเป็นไปตามเงื่อนไขและหลักเกณฑ์ที่บริษัทฯ กำหนด
- ความคุ้มครองและการจ่ายผลประโยชน์ต่าง ๆ เป็นไปตามที่กำหนดไว้ในกรมธรรม์
- เบี้ยประกันสุขภาพ สามารถนำไปอ้างอิงลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาตามหลักเกณฑ์ที่กรมสรรพากรกำหนด
- ผู้เอาประกันภัยที่ประสงค์จะนำเบี้ยประกันสุขภาพไปอ้างอิงลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาต้องแจ้งความประสงค์และยินยอมให้บริษัทฯ นำส่งข้อมูลเบี้ยประกันสุขภาพให้กรมสรรพากร
- การนำส่งเบี้ยประกันภัยเป็นหน้าที่ของผู้เอาประกันภัย การที่ที่ปรึกษาประกันชีวิต (ตัวแทนประกันชีวิต) มาเก็บเบี้ยประกันภัยเป็นการให้บริการเท่านั้น
- ข้อมูลในเอกสารนี้เป็นเพียงข้อมูลเบื้องต้นของผลิตภัณฑ์ประกันภัย ผู้ขอเอาประกันภัย/ผู้เอาประกันภัยควรศึกษาข้อมูลเพิ่มเติม และทำความเข้าใจในรายละเอียดเงื่อนไขความคุ้มครอง ผลประโยชน์และข้อยกเว้น ก่อนตัดสินใจทำประกันภัยทุกครั้ง เมื่อได้รับกรมธรรม์แล้วโปรดศึกษาเพิ่มเติม