ประกันโรคร้ายแรงคืออะไร ? ทำไมควรมีติดตัวไว้

ปัจจุบันการทำประกันสุขภาพหรือประกันโรคร้ายแรง ถือว่ามีความจำเป็นต่อทุกเพศ ทุกวัย เพราะปัจจุบันมีโรคร้ายแรงต่างๆ เกิดขึ้นมากมาย โดยไม่ทันตั้งตัว ด้วยวิถีชีวิตในชีวิตประจำวันที่เราต้องเจอในแต่ละวัน เช่น การพักผ่อนไม่เพียพอ ดื่มน้ำน้อย กลั้นปัสสาวะ ความเครียด ปัจจัยภายนอกอย่างสภาพแวดล้อมที่ไม่ดี ปัญหามลพิษ หรือแม้แต่สิ่งที่เราหลีกเลี่ยงไม่ได้อย่างกรรมพันธุ์ติดตัว อาจทำให้โรคร้ายแรงเข้ามาถามหาเราโดยไม่ทันคิด และที่น่ากลัวยิ่งกว่านั้นคือโรคเหล่านี้มักรักษาหายขาดได้ยาก หรือต้องใช้เวลานาน กว่าจะรักษาให้หายขาดได้ ผลกระทบที่ตามมานอกจากเรื่องจิตใจแล้ว ยังมีเรื่องของค่ารักษาพยาบาลที่ค่อนข้างสูง ดังนั้นการทำประกันที่คุ้มครองโรคร้ายแรงจะช่วยแบ่งเบาความหนักใจต่าง ๆ เหล่านี้ลงไปได้ อีกทั้งยังเป็นเหมือนการเตรียมเงินเอาไว้กรณีที่ต้องพักรักษาตัวนาน ๆ และต้องขาดรายได้อีกด้วย

ทำไมควรมีประกันโรคร้ายแรง

• สภาพแวดล้อมที่แย่ลงในปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นฝุ่นควัน ควันบุหรี่ ความเครียด อาหารที่กิน ล้วนแต่เป็นตัวกระตุ้นให้เกิดโรคต่างๆมากมาย ถึงแม้จะดูแลตัวเองดีแค่ไหนโรคร้ายก็อาจจะเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ
• เป็นตัวช่วยในการรองรับความเสี่ยงค่าใช้จ่ายจากโรคภัยต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้นกับคุณและคนที่คุณรัก เพื่อครอบคลุมภาระค่ารักษาพยาบาล โดยเฉพาะโรคร้ายแรงที่มีค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลที่สูง ไม่ต้องควักเงินเก็บมาใช้ และไม่เป็นภาระแก่คนข้างหลัง
• ช่วยให้คุณเข้าถึงนวัตกรรมการรักษาที่ดีที่สุด นวัตกรรมการรักษาโรคร้ายแรงมีการพัฒนาอยู่ตลอดเวลา ทำให้โรคร้ายแรงต่างๆ มีโอกาสรักษาให้หายขาดมากขึ้น แต่ก็ย่อมตามมาด้วยค่าใช้จ่ายที่สูง การมีประกันโรคร้ายแรงก็จะสามารถนำเงินที่ได้รับจากประกันมาเป็นค่าใช้จ่ายส่วนนี้ได้
• ช่วยให้คุณวางแผนการเงินได้ดีขึ้น การวางแผนซื้อประกันโรคร้ายแรงไว้ตั้งแต่อายุยังน้อย จะทำให้คุณสามารถวางแผนการเก็บเงินของคุณได้ดีขึ้น โดยไม่ต้องกังวลว่าเงินเก็บของคุณต่องแบ่งเก็บไว้สำรองให้กับค่ารักษาพยาบาลที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต
• สามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้ ประกันชีวิต ประกันสุขภาพที่รวมโรคร้ายแรง และประกันมะเร็งสามารถนำไปอ้างอิงลดหย่อนภาษีได้อีกด้วย

ประกันโรคร้ายแรงเหมาะกับใครบ้าง ?

• คนวัยทำงาน ที่จริงแล้ววิถีชีวิตของวัยทำงานอายุประมาณ 20 ต้น ๆ นี่แหละที่จะเป็นจุดเริ่มต้นของโรคร้ายแรง เพราะการทำงานมีทั้งความเครียดสะสม งานที่รุมเร้าอาจทำให้เราละเลยการดูแลสุขภาพ ไม่ค่อยได้ออกกำลังกาย ไลฟ์สไตล์ที่เสี่ยงต่อการเกิดโรค ไหนจะสภาพแวดล้อมที่เป็นมลพิษ อย่างฝุ่นควันต่าง ๆ ล้วนทำให้เกิดความเสี่ยงในการเกิดโรคของคนวัยนี้ทั้งสิ้น การทำประกันสุขภาพและประกันโรคร้ายแรงเอาไว้แต่เนิ่น ๆ จึงเป็นความอุ่นใจ อีกทั้งการเริ่มทำประกันขณะอายุยังน้อยยังช่วยให้เราจ่ายเบี้ยประกันภัยได้ถูกอีกด้วย
• ผู้ที่มีประกันสวัสดิการด้านสุขภาพอยู่แล้ว พนักงานบริษัท ข้าราชการ มักมีสวัสดิการสุขภาพของบริษัทอยู่แล้วซึ่งจะคุ้มครองโรคภัยไข้เจ็บทั่วไป ค่ารักษาพยาบาลต่างๆ จากสวัสดิการที่ได้รับอาจไม่เพียงพอกับการรักษาโรคร้ายแรง ดังนั้นการทำประกันโรคร้ายแรงเสริมเอาไว้จึงช่วยให้เรามีการคุ้มครองที่ครอบคลุมโรคต่าง ๆ ได้หลากหลายมากยิ่งขึ้น และยังมีเงินก้อนเอาไว้ใช้รักษาตัวหากป่วยเป็นโรคร้ายแรง
• ผู้ที่ต้องการเก็บเงินสำรองฉุกเฉินเอาไว้ หากเราเจ็บป่วยแค่เพียงเล็กๆ น้อย ๆ การจ่ายเงินเองเมื่อต้องไปหาหมอนั้นก็คงพอจะทำได้อยู่ แต่หากเกิดเป็นโรคที่ต้องรักษาต่อเนื่อง หรือโรคร้ายแรงขึ้นมา บางคนถึงขั้นเงินเก็บทั้งชีวิตหายไปกับตาเลย การมีประกันโรคร้ายแรงเอาถือเป็นตัวช่วยหากคุณต้องหยุดงานเพื่อรักษาตัว รายได้ที่มีก็หายไป แต่ก็ยังมีเงินก้อนจากประกันโรคร้ายแรงรองรับความเสียงในส่วนนี้ไว้ให้

มีประกันสุขภาพแล้ว จำเป็นต้องมีประกันโรคร้ายแรงไหม ?

หลายคนอาจจะงงว่าทำไมมีประกันสุขภาพอยู่แล้วถึงยังต้องมีประกันโรคร้ายแรงอีก จริงๆ แล้วประกันทั้ง 2 แบบนั้นมีความคุ้มครองที่แตกต่างกันดังนี้ 

ประกันสุขภาพ โดยทั่วไปจะเน้นการคุ้มครองค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวกับค่ารักษาพยาบาล  เช่น ค่าห้อง ค่าอาหาร และค่าบริการในโรงพยาบาล หากเจ็บป่วยหรือเกิดอุบัติเหตุ คุ้มครองทั้งโรคทั่วไป โรคร้ายแรง โรคระบาด ตามค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจริงไม่เกินวงเงินค่ารักษาของแต่ละแผนที่เราเลือกเอาไว้

ประกันโรคร้ายแรง เป็นประกันที่คุ้มครองเฉพาะโรคร้ายแรงที่ระบุไว้ในกรมธรรม์หากตรวจเจอโรคร้ายแรงในขณะที่กรมธรรม์มีผลบังคับและพ้นระยะเวลาไม่คุ้มครอง จะจ่ายผลประโยชน์ตามกรมธรรม์ซึ่งมักจะจ่ายเป็นเงินก้อนให้ในกรณีที่ตรวจพบเพื่อให้ผู้เอาประกันสามารถนำเงินไปใช้จ่ายในการรักษาตัวหรือค่าใช้จ่ายอื่นๆที่เกิดขึ้นระหว่างการรักษาตัวได้

ดังนั้น การมีทั้ง ประกันสุขภาพ และ ประกันโรคร้ายแรง ก็ยิ่งช่วยให้คุณเบาใจในการใช้ชีวิต และค่าใช้จ่ายได้มากขึ้น เพราะไม่มีใครรู้ได้ว่าการเจ็บป่วยหรือโรคร้ายแบบไหนจะเกิดขึ้นกับเราในอนาคต

เห็นแบบนี้แล้วหากใครยังไม่รู้จะซื้อประกันโรคร้ายแรงอะไรดี ขอแนะนำหนึ่งในแบบประกันโรคร้ายแรงสุดคุ้มจาก OCEAN LIFE ไทยสมุทร นี่เลยสัญญาเพิ่มเติมโรคร้ายแรง โอเชี่ยนไลฟ์ ซูเปอร์ ซีไอ 120 (CI120) คุ้มครองโรคร้ายแรง Top 3 ที่เป็นสาเหตุของการเสียชีวิตของคนไทย ไม่ว่าจะเป็น โรคมะเร็ง โรคหลอดเลือดสมองแตกหรืออุดตัน โรคหลอดลมปอดอุดกั้นเรื้อรังขั้นรุนแรง / โรคปอดระยะสุดท้าย* เป็นต้น และคุ้มครองครอบคลุมโรคร้ายแรงอื่น ๆ อีก 120 โรค ให้คนทำงานใช้ชีวิตสบายใจแบบ Extra
 

✔ คุ้มครองครอบคลุม 120 โรคร้ายแรง

✔ ครอบคลุมโรคร้ายทุกระยะรวมสูงสุด 700%

✔ เคลมครบ 100% ในกลุ่มโรคใดกลุ่มโรคหนึ่ง ไม่ต้องจ่ายเบี้ยต่อ**

✔ สมัครง่ายผ่านช่องทาง Online 

ข้อควรทราบ :

*สถิติสาธารณสุข พ.ศ. 2563 สำนักนโยบายและยุทธศาสตร์ กระทรวงสาธารณสุข

**ในกรณีที่ผู้เอาประกันภัยได้รับความคุ้มครองโรคร้ายแรงครบ 100% ของจำนวนเงินเอาประกันภัย ในกลุ่มโรคใดกลุ่มโรคหนึ่งแล้ว บริษัทจะยกเว้นเบี้ยประกันภัยของสัญญาเพิ่มเติมฉบับนี้ จนกว่าสัญญาเพิ่มเติมฉบับนี้จะสิ้นผลบังคับ

• สำหรับสัญญาสำหรับสัญญาเพิ่มเติมโอเชี่ยนไลฟ์ ซูเปอร์ ซีไอ 120 (CI120) สัญญาเพิ่มเติมนี้มีระยะเวลาเอาประกันภัย 1 ปี ผู้เอาประกันภัยอาจขอต่ออายุสัญญาเพิ่มเติม ได้ภายใต้เงื่อนไขสัญญาเพิ่มเติม ทั้งนี้ สำหรับปีต่ออายุ อาจมีการเปลี่ยนแปลงเบี้ยประกันภัย ขึ้นอยู่กับอายุ ชั้นอาชีพ ค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลที่สูงขึ้น หรือจากประสบการณ์การจ่ายค่าสินไหมโดยรวมของพอร์ตโฟลิโอ (Portfolio) ของสัญญาเพิ่มเติมนี้ รวมถึงเงื่อนไข และหลักเกณฑ์ของบริษัทฯ
• % หมายถึง เปอร์เซ็นต์ของจำนวนเงินเอาประกันภัย
• การรับประกันภัยเป็นไปตามเงื่อนไขและหลักเกณฑ์ที่บริษัทฯ กำหนด
• ความคุ้มครองและการจ่ายผลประโยชน์ต่าง ๆ เป็นไปตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้ในกรมธรรม์
• เบี้ยประกันชีวิต/สุขภาพ สามารถนำไปอ้างอิงลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาตามหลักเกณฑ์ที่กรมสรรพากรกำหนด 
• ผู้เอาประกันภัยที่ประสงค์จะนำเบี้ยประกันชีวิต/สุขภาพไปอ้างอิงลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาต้องแจ้งความประสงค์และยินยอมให้บริษัทฯนำส่งข้อมูลเบี้ยประกันชีวิต/สุขภาพให้กรมสรรพากร 
• การนำส่งเบี้ยประกันภัยเป็นหน้าที่ของผู้เอาประกันภัยการที่ตัวแทนประกันชีวิตมาเก็บเบี้ยประกันภัยเป็นการให้บริการเท่านั้น
• ข้อมูลในเอกสารนี้เป็นเพียงข้อมูลเบื้องต้นของผลิตภัณฑ์ประกันภัย ผู้ขอเอาประกันภัย/ผู้เอาประกันภัยควรศึกษาข้อมูลเพิ่มเติม และทำความเข้าใจในรายละเอียดเงื่อนไขความคุ้มครอง ผลประโยชน์และข้อยกเว้น ก่อนตัดสินใจทำประกันภัยทุกครั้ง เมื่อได้รับกรมธรรม์แล้วโปรดศึกษาเพิ่มเติม